svasdssvasds

ทะเลสาบสีฟ้าของกรีนแลนด์เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล สัญญาณเตือนวิกฤติสภาพอากาศ

ทะเลสาบสีฟ้าของกรีนแลนด์เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล สัญญาณเตือนวิกฤติสภาพอากาศ

ทะเลสาบหลายพันแห่งของกรีนแลนด์ที่เคยเป็นสีฟ้าใส ได้ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นสีน้ำตาล เนื่องจากภาวะโลกร้อนทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นประวัติการณ์ ทั้งยังทำให้แหล่งน้ำเหล่านี้กลายเป็นแหล่งปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศด้วย

ทะเลสาบสีฟ้าอันบริสุทธิ์ของกรีนแลนด์ ซึ่งเคยถือเป็นสัญลักษณ์ของความสวยงามของอาร์กติกและเสถียรภาพทางระบบนิเวศมาช้านาน กลับถูกพบการเปลี่ยนแปลงที่น่ากังวล โดยเกิดจากคลื่นความร้อนที่ทำลายสถิติและฝนที่ตกหนักในปี 2022 ทำให้ทะเลสาบหลายพันแห่งกลายเป็นสีน้ำตาลขุ่น และเปลี่ยนจากแหล่งน้ำที่ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์กลายเป็นต้นตอของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเสียเอง 

นักวิจัยประเมินว่า มีทะเลสาบราว 7,500 แห่งในกรีนแลนด์ตะวันตก ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จากปกติที่ควรจะมีหิมะตกในฤดูใบไม้ร่วง กลับต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่อบอุ่นและฝนตกแทน นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่นับเป็นสัญญาณของจุดเปลี่ยนสำคัญในระบบนิเวศ ทั้งยังส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อพลวัตของสภาพอากาศโลก

ทะเลสาบสีฟ้าของกรีนแลนด์เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล สัญญาณเตือนวิกฤติสภาพอากาศ

ทะเลสาบในกรีนแลนด์เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลได้อย่างไร

การเปลี่ยนแปลงของทะเลสาบในกรีนแลนด์เกิดจากสภาพอากาศเลวร้ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2022 เมื่อหิมะไม่ตกตามปกติ และฝนที่ตกลงมาอย่างหนักได้ไปละลายชั้นดินเยือกแข็งซึ่งอุดมไปด้วยคาร์บอนที่ถูกดูดซับและสะสมมานานหลายพันปี ทำให้เหล็กและสารอินทรีย์อื่นๆ ที่สะสมไว้ ถูกชะล้างลงไปในทะเลสาบจนเกิดการเปลี่ยนสี 

นอกจากนี้การเปลี่ยนสียังทำให้แสงแดดส่องผ่านเข้าไปในทะเลสาบได้น้อยลง ซึ่งส่งผลต่อระบบนิเวศในน้ำเป็นทอดๆ  แพลงก์ตอนซึ่งต้องอาศัยแสงแดดในการสังเคราะห์แสงและมีบทบาทสำคัญในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์เริ่มตายลง ขณะที่จุลินทรีย์อื่นๆ ในทะเลสาบก็เริ่มย่อยสลายสารอินทรีย์ และปล่อยคาร์บอนที่สะสมไว้กลับคืนสู่ชั้นบรรยากาศ

ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ยังคงศึกษาผลกระทบในระยะยาวของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ โดยมีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ ทะเลสาบในกรีนแลนด์ที่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น หากมนุษยชาติไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การใส่ใจสัญญาณเตือนจากอาร์กติกจะทำให้เรามีโอกาสที่จะบรรเทาผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดของภาวะโลกร้อนและรักษาระบบนิเวศที่เปราะบางซึ่งหล่อเลี้ยงชีวิตบนโลกเอาไว้ได้