กรีนแลนด์น้ำแข็งละลาย อาจทำให้เกิด 'การตื่นทอง' จากแหล่งแร่ที่ซ่อนบนเกาะ

กรีนแลนด์ เกาะขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรอาร์กติกและมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ คือหนึ่งในดินแดนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา จนทำให้น้ำแข็งเกิดการละลายอย่างรวดเร็ว และพื้นที่บางส่วนกำลังถูกเปลี่ยนเป็นสีเขียวเพิ่มขึ้น

ท่ามกลางความกังวลว่า การละลายของน้ำแข็งในกรีนแลนด์ อาจเป็นการกระตุ้นให้เกิด "การตื่นทอง" ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เนื่องจากแหล่งแร่ธรรมชาติของเกาะที่ประกอบไปด้วยแร่ 38 รายการ เช่น ทองคำ ไทเทเนียม กราไฟต์ ลิเธียม ยูเรเนียม และทองคำขาว เป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนเป็นที่ต้องการของทั่วโลก

แร่ธาติหลายชนิดยังเป็นวัตถุดิบสำคัญที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสะอาด เช่น การผลิตแบตเตอรี่ อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า เทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน ไปจนถึงการใช้งานในด้านความมั่นคงของชาติ

โรเดอริก แมคอิลรี กรรมการบริหารของบริษัทขุดเจาะ 80 Mile ในสหราชอาณาจักร กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้กำลังได้รับความสนใจมาก เนื่องจากเมื่อน้ำแข็งบนเกาะกรีนแลนด์ละลายเร็วขึ้นและกลับมาฟื้นตัวช้าลง การเข้าถึงแหล่งแร่ห่างไกลที่ยังไม่เคยถูกค้นพบมาก่อนก็ทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก

แม้แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ก็เคยแสดงออกถึงความปรารถนาซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่ต้องการจะครองครองดินแดนแห่งขุมทรัพย์นี้ โดยอ้างถึงความจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ ทั้งยังไม่ปฎิเสธถึงความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารเพื่อทำให้กรีนแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ทางกรีนแลนด์เคยออกมายืนยันอย่างหนักแน่นว่าดินแดนของพวกเขา 'ไม่ใช่สิ่งที่มีไว้ขาย' และเรียกร้องให้ประชาคมโลกเคารพความปรารถนาในการเป็นเอกราช ทั้งนี้ทางเกาะยังคงเปิดกว้างในการสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ ในด้านต่างๆ รวมถึงการทำธุรกิจเหมืองแร่ด้วย