เมื่อทั้งเมืองกลายเป็น ‘วิมารฝุ่น’ ทำให้หลาย ๆ คนออกมาแชร์รูปภาพลูกหลาน คนใกล้ตัว เลือดกำเดาไหลอย่างรุนแรง อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากค่าฝุ่น PM 2.5 ที่สูงเกินมาตรฐาน
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ชื่อ a Pitukpol ได้โพสต์รูปภาพลูกลงโซเชียลมีเดีย เป็นภาพหนูน้อยใส่ชุดนักเรียน ที่กำลังมีเลือดกำเดาไหล โดยแม่ของหนูน้อยได้ระบุข้อความว่า
“ไม่เคยสนใจกับ ฝุ่น pm2.5 เลย จนได้มาเกิดกับลูกตัวเอง มีผลกระทบกับเด็กมากๆ เลือดกำเดาไหลไม่หยุด มีลูกมีหลาน หรือออกไปข้างนอก แนะนำให้ใส่แมสกันทุกคนนะคะ”
ขณะที่อีกหนึ่งเคสถูกแชร์โดย เพจ ‘ที่นี่สมุทรปราการ’ เป็นเรื่องราวของหญิงรายหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ที่ซอยขจรวิทย์ แพรกษา จ.สมุทรปราการ เนื้อหาระบุว่า “เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นเมื่อเช้า ขับรถมอไซค์ออกไปส่งแม่ที่หน้าหมู่บ้าน พอขากลับ ถึงบ้านเลือดกำเดาไหลเหมือนน้ำ หยดใส่ตัวและพื้น”
“ เหตุการณ์ที่สอง อาบน้ำแต่งตัว มาทำงาน พอถึงที่ทำงานจอดรถแล้วเดินเข้าออฟฟิศ พอไปนั่งพักแป๊บเดียวเลือดกำเดาก็ไหลอีก เพราะตั้งแต่เกิดมาจำได้ได้เลยว่าไม่เคยเลือดกำเดาไหลขนาดนี้หรือวันนึงก็ไม่เคยไหลถึง2ครั้ง ปกติตัวเองเป็นคนที่ร่างกายค่อนข้างที่จะแข็งแรง พอมานั่งคิดทบทวนหรือเป็นเพราะว่าเราได้รับฝุ่นPM 2.5มากเกินไป”
รศ.พญ.กรรณิการ์ รุ่งโรจน์วัฒนศิริ หัวหน้าภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มช. เคยอธิบายว่า เมื่อฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน กลุ่มเสี่ยงมากที่สุดคือ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
อาการที่มักจะพบบ่อยคือ ตาแดง ผื่นขึ้นตามส่วนต่างๆของร่างกาย เยื่อบุจมูกอักเสบ และเลือดกำเดาไหล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาการที่ผู้ปกครองมักพาบุตรหลานมาพบแพทย์บ่อยที่สุด
โดยเว็บไซต์ MedCMU อธิบายว่า “ปกติแล้วบริเวณเยื่อบุในจมูกคนเราจะมีเลือดมาเลี้ยงเยอะอยู่แล้ว หากสูดเอาฝุ่น PM2.5 เข้าไป จะทำให้เกิดการอักเสบบริเวณเยื่อบุในช่องจมูก และไปกระตุ้นทำให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเด็กเล็กที่มีโอกาสเลือดกำเดาไหลง่ายกว่าผู้ใหญ่”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง