svasdssvasds

หนีน้ำ ซบแผ่นดิน: ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ทำร้ายชาว 'ปาปัว นิวกินี' อย่างไร?

หนีน้ำ ซบแผ่นดิน: ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ทำร้ายชาว 'ปาปัว นิวกินี' อย่างไร?

Siri James ชาวประมง วัย 40 ปี หนึ่งในคนที่ตัดสินใจพาครอบครัวอพยพไปอยู่บนแผ่นดินไกลจากชายฝั่ง เนื่องจากต้องการตัดความเสี่ยง เพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้นทุกวัน อันมีมูลจากภาวะโลกเดือด

SHORT CUT

  • สหประชาชาติเตือนว่าธารน้ำแข็งที่ละลายเพราะโลกร้อนนั้น ส่งผลให้น้ำในมหาสมุทรขยายตัว จนระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นปีละ 4.62 มิลลิเมตร
  • Siri James วัย 40 ปี เปิดเผยว่า “ผมได้ยินคนพูดกันนะว่ามันเป็นภาวะโลกร้อน ผมไม่รู้หรอกว่ามันหมายถึงอะไรแน่ แต่ที่นี่ ฝนไม่ตกตามฤดู ทั้งสายลมได้เปลี่ยนทิศไปแล้ว”
  • หาดปาวารี (Pavari) มีประชากรอยู่ราว 80,000 คน แต่ด้วยระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ทำให้ผู้คนกว่า 40,000 คน หรือราว 50% ต้องเก็บข้าวเก็บของอพยพย้ายไปอยู่บนแผ่นดิน

Siri James ชาวประมง วัย 40 ปี หนึ่งในคนที่ตัดสินใจพาครอบครัวอพยพไปอยู่บนแผ่นดินไกลจากชายฝั่ง เนื่องจากต้องการตัดความเสี่ยง เพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้นทุกวัน อันมีมูลจากภาวะโลกเดือด

สหประชาชาติเคยออกมาเตือนว่าธารน้ำแข็งที่ละลายเพราะโลกร้อนนั้น ส่งผลให้น้ำในมหาสมุทรขยายตัว จนระดับน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้นปีละ 4.62 มิลลิเมตร ระหว่างปี 2013 - 2022 และเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เซนติเมตร นับตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษที่ 1990

ผลพวงของปรากฏการณ์ดังกล่าวเริ่มแผลงฤทธิ์ให้กับผู้คนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่งแล้ว SPRiNG พาบินข้ามโลกไปยังทางตอนใต้ของปาปัวนิวกินี สถานที่แห่งนี้เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เคยอาศัยอยู่ร่วมกันตามแนวชายฝั่ง แต่ระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นทำให้พวกเขาต้องสละบ้าน

หนีน้ำ ซบแผ่นดิน: ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ทำร้ายชาว

ชาวประมงรายหนึ่ง ชื่อว่า Siri James วัย 40 ปี เปิดเผยว่า “ผมได้ยินคนพูดกันนะว่ามันเป็นภาวะโลกร้อน ผมไม่รู้หรอกว่ามันหมายถึงอะไรแน่ แต่ที่นี่ ฝนไม่ตกตามฤดู ทั้งสายลมได้เปลี่ยนทิศไปแล้ว”

“เป็นไปได้ไหมที่พวกเราล่วงเกินเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ผมก็ไม่ทราบแน่ชัด แต่ตอนนี้ ผมอพยพครอบครัวของผมไปอยู่บนแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว”

หาดปาวารี (Pavari) อันเคยเป็นหมู่บ้าน ซึ่งมีประชากรอยู่ราว 80,000 คน แต่ด้วยระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ทำให้ผู้คนกว่า 40,000 คน หรือราว 50% ต้องเก็บข้าวเก็บของอพยพย้ายไปอยู่บนแผ่นดิน จุดที่ไกลจากริมฝั่งมากขึ้น ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา

หนีน้ำ ซบแผ่นดิน: ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ทำร้ายชาว

กระนี้ ผลพวงดังกล่าวได้กระแซะมาถึงวิถีการดำเนินชีวิตของคนในหมู่บ้านด้วย เดิมทีหลายคนที่นี่มีอาชีพหาปลา ปลูกมะพร้าว และต้นหมาก แต่สภาพอากาศที่แปรปรวน กระแสน้ำที่คาดเดาได้ยาก ทำให้การเพาะปลูก หาปลาทำได้ยากขึ้น แม้เป็นเรื่องที่ทำได้ดีที่สุดในชีวิตก็ตาม...

ลืมแจ้งไปว่า อันนี้ในกรณีสำหรับคนที่มีกรรมสิทธิ์ ‘ที่ดิน’ เท่านั้น ใครที่ไม่มีเงินมากพอ จำต้องก้มหน้าอาศัยอยู่ที่เดิม ในขณะที่ระดับน้ำปริ่มคอหอยอยู่ทุกวัน ๆ

มิเพียงแค่หมู่บ้าน แต่ระดับน้ำเริ่มลามไปถึงสนามบิน Kerema ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน ชาวบ้านเปิดเผยว่า น้ำเริ่มเข้าใกล้สนามบินมากกว่าในอดีต และเพิ่งจะพัดถล่มรั้วด้านหลังสนามบินพังครืนไปไม่นานนี้เอง

ไซมอน คิเลปา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า “ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น และผลกระทบต่อชุมชนเป็นปัญหาที่น่ากังวลซึ่งตอกย้ำถึงความเสี่ยงที่ชุมชนชายฝั่งทั่วประเทศต้องเผชิญ”

“รัฐบาลกำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐ และพันธมิตรต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้ดีที่สุด” คิเลเปา กล่าว

 

ที่มา: The Guardian

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related