svasdssvasds

เปิด “แผนรับมือโลกเดือด” ปี’68 เร่งทำข้อมูลความเสี่ยง - สู่ Carbon Hub อาเซียน

เปิด “แผนรับมือโลกเดือด” ปี’68 เร่งทำข้อมูลความเสี่ยง - สู่ Carbon Hub อาเซียน

โลกร้อน โลกเดือด ปัญหาใหญ่ระดับชาติที่ต้องแก้ไข พาเปิด “แผนรับมือโลกเดือด” ปี’68 ไทยเร่งทำข้อมูลความเสี่ยง - สู่ Carbon Hub อาเซียน

SHORT CUT

  • ต้องยอมรับว่าว่าปัญหาโลกร้อน โลกเดือด กำลังลุกลามไปทั่วโลก ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้เต็มๆ โดยในปี2567 ที่ผ่านมาไทยเผชิญกับปัญหานี้มากมายพอสมควร
  • ทั้งนี้จึงทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออกมาเดินหน้าหามาตรการรับมือโลก เพื่อรับมือให้ทัน
  • วันนี้พาคุยกับ “ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์”พานิช" อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ถึงแผนงานรับมือโลกเดือด ปี2568 ว่าจะเป็นอย่างไรอะไรที่เร่งด่วน

โลกร้อน โลกเดือด ปัญหาใหญ่ระดับชาติที่ต้องแก้ไข พาเปิด “แผนรับมือโลกเดือด” ปี’68 ไทยเร่งทำข้อมูลความเสี่ยง - สู่ Carbon Hub อาเซียน

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัญหาโลกร้อน โลกเดือด กำลังลุกลามไปทั่วโลก ประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบจากปัญหานี้เต็มๆ โดยในปี2567 ที่ผ่านมาไทยเผชิญกับปัญหานี้มากมายพอสมควร จึงทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องออกมาเดินหน้าหามาตรการรับมือโลกเดือด

วันนี้ #SPRiNG จะพามาคุยกับ “ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์”พานิช" อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ถึงแผนงานรับมือโลกเดือด ปี2568 ว่า ไทยต้องเร่งทำข้อมูลความเสี่ยง และต้องลำดับความสำคัญให้ได้ในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆได้ทัน เช่นปี2567 ที่ผ่านมาข้อทำข้อมูลความเสี่ยง ยังไม่ดีพอทั้งในจังหวัด และอำเภอ ตำบล ช่วงที่หลายจังหวัดเกิดวิกฤตภัยธรรมชาติไม่สามารถรับมือได้ทัน จึงจะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์เตือนภัยล่วงหน้าให้ดีจากนี้ไป

ทั้งนี้เพื่อจะสามารถบอกกล่าวให้พี่น้องประชาชนได้รวดเร็ว ให้ปรับตัวให้เร็วขึ้นในปีหน้า ส่วนเรื่องคาร์บอนเครดิตจะทำงานร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เดินหน้าเรื่องการซื่อขายคาร์บอนเครดิตภาคสมัครใจ ให้มีความโปร่งใส ตามระเบียบ กฎหมายกำกับ พร้อมขับเคลื่อนภายใต้ พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ กระตุ้นให้เกิดขึ้นตามนโยบาบรัฐที่ต้องการให้ไทยเป็น Carbon Hub ของภูมิภาคอาเซียน

เปิด “แผนรับมือโลกเดือด” ปี’68 เร่งทำข้อมูลความเสี่ยง - สู่ Carbon Hub อาเซียน

สำหรับในปี2567 ไทยจะเป็นผู้นำในอาเซียน ซึ่งไทยจะขยายมาตรฐาน T-VER และ Premium T-VER ไปสู่อีก 9 ประเทศอาเซียน พร้อมทั้งเป็นผู้นำในการลดปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ที่ไทยเป็นผู้นำด้านนี้ในอาเซียน และพร้อมจะถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับประเทศอื่นๆ เพราะต้องการให้ประเทศอื่นๆได้นำไปเป็นแบบอย่างที่ดี

พร้อมกันนี้ปี2568 ไทยยังคงจะเดินหน้าในการลดคาร์บอนให้เป็นรูปธรรม พร้อมทั้งการจัดทำระเบียบการซื้อขายคาร์บอนเครดิตระหว่างประเทศให้มีความชัดเจนขึ้น ซึ่งวันนี้ยังอยู่ในกระบวนการรับฟังความคิดเห็นอยู่ และพร้อมทำแผนงานให้นำไปปฏิบัติได้จริง

นอกจากนี้จะสนับสนุนให้เกิดการลงทุนที่สามารถนำเงินจากต่างประเทศมาช่วยไทยในการลงทุนด้านเทคโนโลยีรับมือโลกร้อนที่มีราคาสูงอยู่ ทั้งในสาขาเกษตร และสาขาอื่นๆ ที่จะสามารถใช้เทคโนโลยีมาเปลี่ยนผ่านในช่วงเวลาที่ท้าทายอยู่แบบนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

 

 

 

related