SHORT CUT
ในยุคโลกเดือดเราจะได้รู้จักกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติสุดพิลึกพิลั่นอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Rain Bomb หรือล่าสุดอย่าง "ซอมบี้เฮอริเคน" ว่าแต่มันคืออะไร มันน่ากลัว และรุนแรงแค่ไหน?
ถือว่าหนักหน่วงอย่างมาก หลังเม็กซิโกถูกเฮอริเคนจอห์นซัดถล่มในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อให้เกิดน้ำท่วม อาคารบ้านเรือนเสียหาย ดินถล่ม และถนนพังทลายในหลายพื้นที่
มีรายงานว่าเรือหลายลำไม่สามารถเข้าจอดเทียบท่าได้ (บริเวณดังกล่าวเป็นท่าเรือและแหล่งท่องเที่ยว) และนอกจากนี้ สนามบินท้องถิ่นถูกปิดชั่วคราว และโชคร้ายที่สุดคือมีผู้เสียชีวิตรวม 22 ราย
กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ ได้นิยามคำว่า “ซอมบี้เฮอริเคน” ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยพิจารณาจากลักษณะการเกิด-ดับ-ฟื้น ของพายุ ยกตัวอย่างเช่น พายุเฮอริเคนอีวาน ในปี 2004 ซึ่งพัดถล่มสหรัฐฯ นานกว่าหนึ่งเดือน ก่อนสลายตัวและฟื้นตัวพัดถล่มใหม่อีกครั้ง
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ ได้อธิบายนิยามของซอมบี้เฮอริเคนไว้อย่างเข้าใจง่าย ๆ คือ “โลกร้อนทะเลเดือดทำให้เกิดซอมบี้เฮอริเคน”
“Zombie hurricane เป็นศัพท์ทั่วไป ใช้อธิบายถึงพายุที่ไม่ยอมตาย เข้าฝั่งแล้วอ่อนแรง แต่เด้งลงทะเลและเร่งความแรงกลับเข้ามาใหม่ และเฮอริเคนจอห์น ที่เพิ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักให้เม็กซิโกคือพายุซอมบี้ล่าสุด”
นอกจากนี้ อุณหภูมิน้ำทะเลที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พายุเกิด 2 ปรากฏการณ์ที่น่ากลัว และรุนแรง อย่างแรกคือพายุรุนแรงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น พายุยางิใช้เวลา 48 ชั่วโมงอัปเกรดจากโซนร้อนเป็นไต้ฝุ่น หรือจอห์นที่เป็นแค่พายุดีเปรสชันกลายเป็นเฮอริเคนระดับ 3 ภายในเวลา 48 ชั่วโมงเช่นกัน
อย่างที่สองคือพายุจอห์นไม่ยอมสลาย ทั้งที่พัดขึ้นฝั่งแล้ว แต่บางส่วนของพายุกลับสู่ทะเล ผนวกกับน้ำทะเลที่ร้อนจัดจึงก่อให้เกิดเป็นเฮอริเคน แล้วพัดเข้าสู่ฝั่งเป็นหนที่สอง “ตายแล้วฟื้น” ปรากฏการณ์พายุไม่ยอมตายเช่นนี้ คงไม่มีคำใดเหมาะกว่าคำว่า “ซอมบี้” อีกแล้ว
ที่มา: Reuters, Thon Thamrongnawasawat
ข่าวที่เกี่ยวข้อง