เตรียมบอกลา “กิมจิ” โลกร้อนทำเกาหลีใต้ปลูกผักกาดไม่ได้

คิม เกษตรกรที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านอันบันเดกี จังหวัดคังวอน ปลูกผักกาดที่ใช้ทำกิมจิมานานกว่า 50 ปีแล้ว แต่เขาเองก็เริ่มสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับผักกาด อันเนื่องมาจากปัญหาสภาพอากาศ คิม ซึ่งยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าสมาคมผู้ผลิตผักกาดและหัวไชเท้าแห่งที่ราบสูง บอกว่า เขารู้สึกได้ว่า วิกฤตสภาพอากาศกำลังใกล้ข้ามา พื้นที่เพาะปลูกก็ลดลงเหลือครึ่งเดียว เนื่องจากมีปัญหาเรื่องของคุณภาพดินและยังมีไวรัสหลากหลายชนิดด้วย 

จังหวัดคังวอน ซึ่งมีอากาศค่อนข้างหนาวเย็น เป็นแหล่งผลิตผักกาดสำหรับทำกิมจิมากถึง 93 เปอร์เซ็นต์ของเกาหลีใต้ แต่ปัญหาอากาศที่ร้อนขึ้นและสภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อพื้นที่เพาะปลูกผักกาด โดยนับตั้งแต่ช่วงปี 2000 จนถึงขณะนี้ พื้นที่ปลูกผักกาดหายไปกว่าครึ่ง และยังมีการคาดการณ์ว่า ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศจะทำให้พื้นที่เพาะปลูกลดลงอีกในช่วง 25 ปีข้างหน้า ทำให้เหลือพื้นที่ปลูกผักกาดทำกิมจิเพียงแค่ 275 ไร่ และภายในปี 2090 จะไม่มีการปลูกผักกาดทำกิมจิบนที่ราบสูงดังกล่าวอีกเลย

ทั้งนี้ ผักกาดสำหรับทำกิมจิจะเติบโตได้ดีในอากาศที่หนาวเย็น ดังนั้นจึงมักจะปลูกพวกมันบนพื้นที่ที่เป็นภูเขา เนื่องจากว่า แม้จะเป็นฤดูร้อน อากาศก็จะไม่ร้อนนัก อย่างไรก็ตาม เมื่อโลกร้อนขึ้น บรรดาเกษตรกรต้องปรับตัว แต่ค่าใช้จ่ายสำหรับการปรับตัวรับกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศก็สูงเหลือเกิน

นอกจากปัญหาโลกร้อน พื้นที่ทำการเกษตรลดลง จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของเกษตรกรแล้ว มันยังส่งผลไปถึงกิมจิ อาหารชื่อดังที่เป็นเมนูประจำวันของชาวเกาหลีด้วย 

อี ฮายอน ผู้ทำกิมจิ ซึ่งได้รับการยอมรับให้เป็นกิมจิมาสเตอร์ เปิดเผยว่า มันเป็นเรื่องเศร้าที่จะต้องคิดว่า เราจะไม่สามารถทำกิมจิได้อีกต่อไป ซึ่งกิมจิเป็นอาหารที่บรรพบุรุษรับประทานมาหลายชั่วอายุคน และต้องใช้ผักกาดที่ปลูกในประเทศด้วย แต่ถ้าหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป ในช่วงหน้าร้อน เราก็อาจจะต้องยอมแพ้ที่จะไม่มีกิมจิผักกาดขาว

อย่างไรก็ตาม ด้วยความกังวลดังกล่าว เหล่านักวิจัยจึงกำลังทำงานเพื่อออกแนวทางรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในฟาร์มปลูกผักกาด เช่น พยายามพัฒนาผักกาดให้ทนต่ออากาศร้อนมากขึ้น และทนกับโรคต่างๆ

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมกิมจิของเกาหลีใต้จริง อีกทั้งยังมีกิมจิราคาถูกกว่าจากจีนเข้ามาตีตลาด ซึ่งมักจะใช้เสิร์ฟตามร้านอาหาร โดยการนำเข้ากิมจิจากจีนระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฎาคมปีนี้เพิ่มขึ้น 6.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ที่มา: reuters