แหล่งท่องเที่ยวริมทะเลแห่งหนึ่งของกรีซกำลังประสบปัญหาหนัก เมื่อซากปลาตายจำนวนมหาศาลถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง โดยผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ปลาเหล่านั้นเป็นปลาน้ำจืดที่ถูกน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว และตายทันทีที่สัมผัสกับน้ำเค็ม
เจ้าหน้าที่กรีซเริ่มต้นเก็บซากปลาหลายหมื่นหลายแสนตัวที่ตายเกลื่อนอยู่ในทะเล บริเวณท่าเรือแห่งหนึ่งที่เมืองโวลอส ทางตอนกลางของประเทศในสัปดาห์นี้ สร้างความตกใจให้แก่ประชาชนและเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องเร่งเก็บกวาด
เนื่องจากเกรงว่าซากปลาจะเริ่มโชยกลิ่นไปยังร้านอาหารและโรงแรมที่อยู่ใกล้เคียง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยม
ปลาจำนวนมหาศาลเหล่านี้จริงๆแล้วเป็นปลาน้ำจืด แต่เมื่อปีที่แล้ว พายุดาเนียลพัดเข้าถล่มกรีซจนทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่กินพื้นที่กว่า 35,000 เอเคอร์ หรือราว 88,500 ไร่ใกล้กับทะเลสาบคาร์ลา และน้ำท่วมครั้งนั้นได้พัดพาพวกปลาเหล่านี้ลงสู่อ่าวปากาเซติก แต่พวกมันก็ตายทันทีที่สัมผัสกับน้ำเค็ม
ประธานสภาท้องถิ่นเปิดเผยว่า ซากปลาตายเหล่านี้กินพื้นที่ยาวหลายกิโลเมตร และเกิดความเป็นกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรค ซึ่งอาจจะคุกคามสิ่งมีชีวิตในทะเลภายในอ่าวดังกล่าว รวมถึงโลมาและเต่า
ส่วนบรรดาชาวบ้านท้องถิ่นในเมืองโวลอส ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ต่างเป็นกังวลเกรงว่าปัญหาดังกล่าวจะกระทบต่อธุรกิจของพวกเขา และอาจจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
นับจนถึงขณะนี้ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้รับการเก็บซากปลาตายไปแล้วราว 40 ตัน และอัยการท้องถิ่นสั่งให้มีการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กรีซเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เจอกับพายุและน้ำท่วมบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ชี้ว่า เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
ที่มา: The Guardian
ข่าวที่เกี่ยวข้อง