โลกร้อน! ดันตลาด น้ำดื่ม-ไอศกรีม-กาแฟชงเย็น โตกระฉูด รับลมร้อนตับแตก

นาทีนี้ต้องบอกได้คำเดียวว่านรกบนโลกมีอยู่จริง เพราะโลกของเราร้อนขึ้นมากๆ ทำให้ได้รับผลกระทบกันไปถ้วนหน้า โดยล่าสุด กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด แต่..ในทางกลับกันอากาศร้อนจัดในขณะนี้ส่งผลดีต่อ ธุรกิจน้ำดื่ม ไอศกรีม กาแฟชงเย็น และเครื่องดื่ม อื่นๆ ที่ช่วยดับร้อน แน่นอนว่าช่วงนี้ตลาดเครื่องดื่ม น้ำดื่ม แห่กันออกแคมเปญใหม่ หรือสินค้าใหม่ เพื่อช่วงชิงเค้กก้อนโตช่วงหน้าร้อนนี้ จึงทำให้การแข่งขึ้นในตลาดจะมีสูงขึ้น แต่ผู้บริโภคกลับมีทางเลือกที่มากขึ้น

 

โดย “นายวิคเตอร์ เซียห์” ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า เปิดเผยว่า ปัจจุบันโลกกำลังเข้าสู่ภาวะโลกเดือดทำให้อากาศในหลายประเทศร้อนจัด ส่งผลทำให้สินค้าของเนสท์เล่ ในกลุ่มน้ำดื่ม และเครื่องดื่ม ได้รับการตอบรับดีมากจากลูกค้าใสนช่วงนี้ เนื่องจากอากาศที่ร้อนอบอ้าว ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา น้ำดื่ม-ไอศกรีม-กาแฟชงเย็น เติบโตมากพอสมควร และแนวโน้มในปีนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับปัญหาโลกร้อน เนสท์เล่ อินโดไชน่า ให้ความสำคัญมาโดยตลอด และเดินหน้าทำธุรกิจอย่างยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเนสท์เล่ มุ่งมั่นดูแลและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ผ่านกลยุทธ์ในการ “ขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อโลกของเรา” (Good for the Planet) โดยได้ดำเนินงานตามแผนงานด้านความยั่งยืนตลอดหลายปีที่ผ่านมาและมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก

อาทิ 96% ของบรรจุภัณฑ์เนสท์เล่ประเทศไทย ได้รับการออกแบบให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ การจัดหาเมล็ดกาแฟและน้ำนมดิบอย่างยั่งยืน 100% รวมถึงให้การสนับสนุนเกษตรกรผู้เพาะปลูกกาแฟและเลี้ยงโคนม อีกทั้งยังมีโครงการดูแลและจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน ปัจจุบันโรงงานผลิตน้ำดื่มของเนสท์เล่ที่อยุธยาสามารถชดเชยน้ำกลับคืนสู่ชุมชนและสิ่งแวดล้อมได้ 100% และมีการลดการปล่อยคาร์บอนตามแผนงานที่ตั้งไว้

“ด้วยกลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนสิ่งดี ๆ เพื่อผู้บริโภคและเพื่อโลกของเรา เนสท์เล่ จะเดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการเพื่อคนไทยในทุกช่วงวัย ควบคู่กับการให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ในปี 2050 พร้อมทั้งดำเนินงานภายใต้หลักการ ESG ทุกมิติ ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อสร้างคุณค่าให้แก่สังคมไทยและผู้บริโภคชาวไทยวันนี้และอนาคต” นายวิคเตอร์ กล่าว

นอกจากนี้ในเรื่องความยั่งยืนอื่นๆ เนสท์เล่ เดินหน้าทำด้าน ESG มีดังนี้

• ขณะนี้ 96% ของบรรจุภัณฑ์เนสท์เล่ประเทศไทย ได้รับการออกแบบให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ รวมทั้งมีการดำเนินงานเพื่อลดการใช้พลาสติกผลิตใหม่ เช่น ขวดน้ำแร่ธรรมชาติมิเนเร่ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล
• การดูแล และจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนที่ทำสำเร็จเป็นอย่างดี ด้วยการชดเชยน้ำกลับคืนสู่ชุมชนและธรรมชาติ ได้เท่ากับปริมาณที่ใช้ในโรงานในจังหวัดอยุธยา 100% ซึ่งเป็นผลมาจากการทำโครงการ "เนสท์เส น้ำรักษ์น้ำ" ที่รวมเอา 3 แนวทาง (เรียนรู้-ปกป้อง-พื้นฟู มาใช้ ซึ่งจะต่อยอดไปที่โรงงานสุราษฎร์ธานี ต่อไป
• จัดหาเมล็ดกาแฟ และน้ำนมดิบจากแหล่งผลิตที่ยั่งยืน 100% ผ่านการใช้หลักการเกษตรเชิงฟื้นฟู และได้รับการรับรองหลักตามเกณฑ์การปฏิบัติทางตามหลักการเกษตรที่ดีสำหรับการทำฟาร์มโคนม (GAP) จากกรมปศุสัตว์
• มุ่งสู่การลดการปล่อยคาร์บอนลง 20% ภายในปี 2025 โดยได้เดินหน้าในการใช้พลังงานหมุนเวียน มีการใช้รถบรรทุกไฟฟ้า
• ใช้รถสามล้อไฟฟ้าสำหรับขายไอศกรีม รวมถึงการใช้เทโนโลยีที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำในโรงงาน

ทั้งมด คือ เรื่องราวของ เนสท์เล่ประเทศไทย ที่ในการทำธุรกิจในบางกลุ่มได้รับอานิสงส์จากโลกร้อน และยังเดินหน้าพันธกิจด้าน ESG อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดปัญหาโลกร้อนในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• อรรถวิชช์ "ชู RECs ใบรับรองการผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด" นวัตกรรมช่วยลดโลกร้อน

• โลกร้อนอาจมีส่วนทำให้ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดในจีนเพิ่มขึ้น

• โลกร้อน ภัยแล้งพ่นพิษหนัก! ทำ "ผักสวนครัว" ราคาพุ่ง ผักชีนำโด่งเกือบ 300 ก.ก.