SHORT CUT
ถือเป็นข่าวร้ายประจำปี 2024 การศึกษาใหม่เผยว่า ภายในปี 2035 หรืออีกประมาณ 10 ปี ขั้วโลกเหนือจะไม่มีน้ำแข็งให้เห็นอีกต่อไป หากมนุษย์ยังไม่เลิกเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล
จะเป็นอย่างไรกันนะ หากวันหนึ่งขั้วโลกเหนือจะไม่มีน้ำแข็ง แต่จะหลงเหลือไว้แค่ต้นไม้ใบหญ้าสีเขียว
แพลนกล้องไปก็อาจจะเจอหมีขั้วโลกในสภาพผอมบักโกรก บอกเลยว่านั่นไม่ใช่ขั้วโลกเหนือที่เคยรู้จัก
แต่จะทำไงได้เมื่อการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิลของมนุษย์กำลังทำให้เราชินตากับภาพเมื่อครู่ไปเสียแล้ว
สปริงนิวส์หยิบการศึกษาของ Alexandra Jahn ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Reviews Earth & Environment มาย่อยให้อ่านกัน โดยเธอระบุไว้ว่า ภายในปี 2578 ขั้วโลกจะไร้น้ำแข็ง (Ice-free)
หากมนุษย์ยังไม่เลิกปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล รวมถึงปล่อยให้ปัญหาโลกร้อนทวีความรุนแรงขึ้น
Alexandra Jahn เผยว่า “ขั้วโลกเหนือจะเปลี่ยนไป เราอาจไม่ได้เห็นน้ำแข็งขาวโพลนอีก แต่จะเห็นแค่สีน้ำเงินจากน้ำทะเลแทน”
ทว่า ก็ยังมีทางออกสำหรับเรื่อง โดย Alexandra ได้แสดงความคิดเห็นว่า สมมติว่าภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือละลายจนหมดสิ้นไปจริง ๆ
ทางออกมีแค่วิธีเดียว (ที่เธอเสนอ) นั่นคือการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนในชั้นบรรยากาศให้ได้มากที่สุด และเมื่อปัญหาโลกร้อนทุเลาลง ไม่เกิน 10 ปี เดี๋ยวน้ำแข็งก็กลับมา
ซึ่งหากขั้วโลกเหนือไร้น้ำแข็งขึ้นมาจริง ๆ แน่นอนว่าสัตว์ป่า อาทิ หมีขั้วโลก แมวน้ำ และสัตว์พื้นถิ่นอีกหลายสายพันธุ์ ต้องทุกข์ทรมานอย่างถึงที่สุด
ซึ่งจริง ๆ ไม่ต้องรอให้ถึงอีกทศวรรษข้างหน้าหรอก เพราะแค่ตอนนี้ เราก็ได้เห็นแล้วว่าหมีที่มีร่างกายผอมแห้ง เพราะถูกบังคับให้ขึ้นบก เพราะน้ำแข็งละลายไปหมดมันน่าหดหู่แค่ไหน
ขณะเดียวกัน เมื่อปริมาณน้ำแข็งลดลง พื้นที่ชายฝั่งระแวกนั้นก็จะไม่มีสิ่งใดมันชะลอความรุนแรงของคลื่น ชายฝั่งจะถูกกัดเซาะไปเรื่อย ๆ และบางทีอาจร้ายแรงถึงขั้นจมหายไปเลยก็ได้
ที่มา: The Guardian
ข่าวที่เกี่ยวข้อง