ช่วงนี้เราได้ข่าวเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศบ่อยๆ โดยเฉพาะอุณหภูมิที่ลดต่ำลงอย่างรวดเร็วจนบางประเทศมีหิมะตกหนักจนต้องเตือนให้อยู่ในระดับภัยพิบัติ
ดูเหมือนว่าช่วงนี้สภาพอากาศแปรปรวนอย่างหนัก อุณหภูมิลดต่ำลง หลายประเทศเจอพายุหิมะ หิมะตกหนัก สภาพอากาศ Whiteout ขาวโพลนไปด้วยหิมะ ส่งผลกระทบกับการดำรงชีวิต และบางแห่งได้มีการประกาศเตือนอากาศหนาวจัด หิมะตกหนักอยู่ในระดับภัยพิบัติ
เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและการเฝ้าติดตามสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมองโกเลีย รายงานว่าอุณหภูมิข้ามคืนในเขตย่อยซูอุนโกวี ซุม (Zuungovi soum) จังหวัดอุฟส์ทางตะวันตกของมองโกเลีย ลดลงต่ำถึง -50 องศาเซลเซียส ตั้งแต่วันอังคารที่ 19 - วันพุธที่ 20 ธ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นอุณหภูมิหนาวเย็นที่สุดสำหรับมองโกเลียในฤดูหนาวนี้
แนวปะทะอากาศเย็นกำลังแรงที่มีต้นกำเนิดในไซบีเรียและรัสเซีย ได้แผ่ขยายครอบคลุมทั่วมองโกเลียนับตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้อุณหภูมิลดลง รวมถึงเกิดลมแรงและพายุหิมะ โดยคาดว่าคลื่นความเย็นจะยังคงมีไปจนถึงวันศุกร์ที่ 22 ธ.ค. 2566 มองโกเลียเคยมีสถิติอุณหภูมิลดลงต่ำในชั่วข้ามคืนถึง -55.6 องศาเซลเซียส ในวันที่ 26 ธ.ค.1966 นับว่าหนาวที่สุดเป็นประวัติการณ์ของมองโกเลีย
ก่อนหน้านี้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นได้ออกมาประกาศเตือนเรื่องพายุหิมะ สาเหตุมาจากมวลอากาศเย็นที่เคลื่อนตัวไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ และทำให้ในญี่ปุ่นเกิดสภาพอากาศเลวร้ายด้วยหิมะ หรือสภาพอากาศ Whiteout ที่หลายพื้นที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะส่งผลกับทัศนวิสัยกับการจราจร
ล่าสุดได้มีการเตือนถึงคลื่นความหนาวเย็นที่เข้ามาบุกญี่ปุ่นในวันที่ 21-22 ธันวาคมนี้ ซึ่งมาพร้อมหิมะตกหนัก อากาศหนาวจัดในระดับภัยพิบัติ และได้มีการเตือนว่าหากไม่จำเป็นไม่ควรออกไปข้างนอก เพราะคลื่นความหนาวเย็นนี้อยู่ในระดับความรุนแรงที่ 10 ปี มี 1 ครั้ง โดยมีการพยากรณ์อากาศว่าที่ฮอกไกโดแลโทโฮคุ หิมะจะตกหนักมาก 21-24 ธ.ค. ส่วนที่คิวชู จูโกะคุ หิมะตกหนักวันที่ 20-22 ธ.ค. โดยในช่วงดังกล่าวทางด่วนและรถไฟอาจต้องหยุดวิ่งชั่วคราว และได้มีการเตือนผู้ขับขี่อาจเจอพายุหิมะ หิมะตกหนักมากจนสัญจรไม่ได้ หรืออาจติดหล่มหิมะได้
ส่วนในประเทศจีนหลายพื้นที่เจอกับคลื่นความเย็น ส่งผลให้หิมะตกหนักและอากาศหนาวจัด จนทางการต้องดำเนินสารพัดมาตรการเพื่อป้องกันหรือบรรเทาผลกระทบอันเกิดจากหิมะตกหนักและสภาพอากาศเย็นยะเยือกอื่นๆ ซึ่งเป็นผลพวงจากคลื่นความเย็น
ที่มา : Xinhua Thai / FB ฮอกไกโดแฟนคลับ-Hokkaidofanclub
เนื้อหาที่น่าสนใจ :