svasdssvasds

UN ชี้โลกจะร้อนขึ้นเกือบ 3 องศาเซลเซียส ภัยหายนะที่ไม่อาจหวนกลับได้แล้ว

UN ชี้โลกจะร้อนขึ้นเกือบ 3 องศาเซลเซียส ภัยหายนะที่ไม่อาจหวนกลับได้แล้ว

ปัญหาโลกร้อนขึ้น กลายเป็นสิ่งที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ มีอันตรายมากขึ้นในการใช้ชีวิต ในทศวรรษนี้ , ล่าสุด ดูเหมือนจะตอกย้ำความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีก , เพราะ UN หรือ องค์การสหประชาชาติ เปิดเผยรายงานชี้โลกจะร้อนขึ้นแตะ 2.9 องศาเซลเซียส ธารน้ำแข็งละลาย ป่าแอมะซอนแห้งแล้ง

ทั้งนี้ สำนักข่าว Reuters รายงานล่าสุดจัดทำโดยองค์การสหประชาชาติ ชี้ว่า โลกอาจร้อนขึ้นแตะ 2.9 องศาเซลเซียส และนั่นทำให้ นักวิทยาศาสตร์คาดโลกจะผ่านจุดวิกฤตหลายอย่างที่ไม่สามารถแก้ไขได้แล้ว 

องค์การสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยรายงานประจำปีว่าด้วย Emissions Gap ซึ่งประเมินการลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจกของแต่ละประเทศที่ให้คำมั่นและตั้งเป้าร่วมกันแก้ไขปัญหาโลกร้อน ปรากฏว่า ข้อมูลล่าสุดชี้ว่าโลกกำลังมุ่งหน้าไปสู่การมีอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 3 องศาเซลเซียสภายในช่วง 100 ปี หรือในช่วงศตวรรษนี้ พร้อมเตือนว่าโลกกำลังมุ่งสู่สภาวะร้อนอย่างรุนแรงจนอาจจะไม่สู่จุดที่หวนกลับได้ 

“แนวโน้มอุณหภูมิโลกในปัจจุบันกำลังเร่งให้โลกของเราลดอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นถึง 3 องศาเซลเซียส ช่องว่างการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นเหมือนหุบเขาแห่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ”  อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ UN แสดงความเห็นด้วยความห่วงใย

UN ชี้โลกจะร้อนขึ้นเกือบ 3 องศาเซลเซียส ภัยหายนะที่ไม่อาจหวนกลับ

 

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบให้เห็นอย่างชัดเจน ของการที่อุณหภูมิโลกสูงขึ้นแบบนี้  ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม โลกจะร้อนขึ้น 2.5-2.9 องศาเซลเซียสภายในช่วงศตวรรษนี้ หากประเทศต่างๆ ไม่ยกระดับมาตรการลดการปล่อยแก๊สเรือนกระจก ซึ่งหากโลกร้อนขึ้นเกือบ 3 องศาเซลเซียสจริง นักวิทยาศาสตร์คาดว่าโลกจะผ่านจุดวิกฤตหลายอย่างที่ไม่สามารถแก้ไขได้อีก ไม่ว่าจะเป็นธารน้ำแข็งละลาย ป่าแอมะซอนแห้งแล้งและอื่นๆ

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ UN แสดงความเห็นด้วยความห่วงใย ต่อประเด็นโลกร้อน credit ภาพจาก Reuters

หากพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในปัจจุบัน หนีไม่พ้นภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ ที่เห็นได้ชัดเจน ข้อมูลอุณหภูมิเฉลี่ยของโลก วัดจนถึงปลายเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีวันที่ร้อนกว่าช่วงกลางศตวรรษที่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส มากถึง 86 วัน

แต่รายงานฉบับใหม่ขององค์การสหประชาชาติ UN  แทบไม่ได้สร้างความหวังว่าเป้าหมายนี้จะใกล้เคียง โดยพบว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อนจะต้องลดลง 42% ภายในปี 2573 เพื่อรักษาอุณหภูมิให้ร้อนขึ้นที่ 1.5C (2.7F)

แม้แต่ในสถานการณ์การ ปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในแง่ดีที่สุด โอกาสที่จะจำกัดไม่ให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นเหลือ 1.5 องศาเซลเซียสนั้น มีเพียง 14% เท่านั้น ซึ่งจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่เพิ่มมากขึ้น เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าเป้าหมายนั้นน่าจะจบลงแล้ว เพราะการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1.2% ในช่วงปี 2021 - 2022 ซึ่งแตะระดับคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า 57.4 กิกะตัน

รายงานฉบับนี้เผยแพร่ออกมาในช่วงเวลา ก่อนที่การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 28 หรือ COP28 จะเปิดฉากประชุมขึ้นที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในวันที่ 30 พ.ย. 2023 ซึ่งจะมีตัวแทนจากประเทศสมาชิก 197 ประเทศเข้าร่วม เป้าหมายการประชุมครั้งนี้ยังอยู่ที่การทำตามข้อตกลงปารีส คือรักษาไม่ให้โลกร้อนขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสได้สำเร็จ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ที่มา Reuters 

related