เอลนีโญ ปรากฎการณ์สภาพอากาศแปรปรวนที่ส่งผลกับทั่วโลก ทำให้บางพื้นที่เกิดความแห้งแล้งที่รุนแรง บางพื้นที่ฝนตกหนัก ซึ่งได้เกิดขึ้นแล้วในมหาสมุทรแปซิฟิก และการมีการคาดการณ์ว่าปี 2024 จะเป็นปีที่ร้อนที่สุดของโลก
นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ ได้ยืนยันว่า เอลนีโญ (El Niño) ได้เริ่มขึ้นแล้วในมหาสมุทรแปซิฟิก และปรากฎการณ์นี้ทำให้โลกร้อนขึ้น คาดว่าปี 2024 เป็นปีที่ร้อนที่สุดของโลก ซึ่งปรากฎการณ์นี้สร้างความกังวลได้มากกว่าอุณหภูมิโลกสูงขึ้นจาก Climate Change สูงขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสที่ตั้งไว้ เนื่องจากเอลนีโญสามารถเพิ่มอุณหภูมิโลกถึง 0.2 องศาเซลเซียส
เอลนีโญส่งผลกระทบกับอุณหภูมิโลก ทำให้ออสเตรเลียแห้งแล้งอย่างหนัก และอเมริกาใต้เกิดฝนตกหนัก และทำให้มรสุมของอินเดียอ่อนตัวลง ปรากฎการณ์นี้เริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้วและคาดว่าจะมีไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
ส่องแผนรับมือเอลนีโญสู้ภัยแล้ง แผนสำรองขุดน้ำใต้ดินมาใช้กรณีไม่มีฝน
ภาวะโลกร้อน ทำทะเลสาบ – อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ทั่วโลกกำลังเหือดแห้งลง ! 53 %
ปรากฎการณ์เอลนีโญสร้างความกังวลให้นักวิจัยว่า เอลนีโญในปีนี้จะส่งผลกระทบกับอุณหภูมิโลกในปี 2024 สูงขึ้นทำลายสถิติของโลก ซึ่ง Adam Scaife จากกรมอุตุนิยมวิทยาของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า อุณหภูมิในปีหน้าจะทำลายสถิติหรือไม่ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเอลนีโญในปีนี้ว่ารุนแรงแค่ไหน หากมีความรุนแรง จะทำให้ปี 2024 อุณหภูมิจะสูงทำลายสถิติ
หน่วยงานเกี่ยวกับสภาพอากาศทั่วโลกกำลังดูว่าเอลนีโญจะส่งผลกระทบเมื่อไร ทางด้านองค์การบริหารมหาสมุทรของสหรัฐฯ เผยว่า เอลนีโญได้เกิดขึ้นแล้ว แม้ตอนนี้กำลังอ่อนแรง แต่เชื่อว่าเอลนีโญจะรุนแรงขึ้นอีก
เอลนีโญ เป็นปรากฏการณ์อากาศผันแปร ที่เรียกรวมกันว่า เอนโซ (ENSO) ที่ย่อมาจาก El Niño–Southern Oscillation ซึ่งหมายถึง ปรากฏการณ์อากาศผันแปรที่ซีกโลกใต้ ซึ่งหากลมค้าอ่อนกำลัง ก็จะส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ เอลนีโญเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้เกิดสถานการณ์ที่ผิดปกติ เช่น ฤดูฝน แต่ฝนกลับไม่ตก จนทำให้เกิดภัยแล้ง
ที่มา : BBC / Spring News