svasdssvasds

ภัยโลกเดือดมาแล้ว! UN ย้ำ โลกต้องเร่งปรับตัวและรับมือภัยพิบัติก่อนสาย

ภัยโลกเดือดมาแล้ว! UN ย้ำ โลกต้องเร่งปรับตัวและรับมือภัยพิบัติก่อนสาย

องค์การสหประชาชาติ (UN) เผย สภาวะโลกร้อนกำลังทำให้ภัยธรรมชาติเกิดถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้น ดังนั้น เพื่อปกป้องประชาชนจากภัยพิบัติโลกร้อน นานาชาติต้องเร่งเตรียมการรับมือภัยพิบัติอย่างเร่งด่วน

จากสถานการณ์ความรุนแรงของภัยพิบัติจากสภาพอากาศสุดขั้ว ที่เกิดบ่อยขึ้นและสร้างความเสียหายหนักหน่วงขึ้นทุกที เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ António Guterres ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาคมโลกเร่งปรับตัวรับมือกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อปกป้องประชาชนจากภัยธรรมชาติที่กำลังทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากสภาวะโลกร้อน

ข้อมูลวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์ทั่วโลกระบุตรงกันว่า ภัยธรรมชาติกว่าร้อยละ 75 มีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในขณะที่สำนักงานเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งสหประชาชาติ (UNDRR) เผยว่า สภาวะโลกร้อนที่ยังทวีกำลังหนักขึ้น จะทำให้ภายในปี 2030 โลกจะต้องเผชิญภัยพิบัติร้ายแรงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้น 1 – 2 ครั้ง ในทุกๆ วัน 

ผู้ประสบภัยจากพายุเฮอร์ริเคนไอดาเลียนั่งอยู่บนกองซากปรักหักพังของเมืองหลังพายุใหญ่ถล่มฟลอริดา  Cr: Reuters

ตัวเลขประมาณการขององค์การสหประชาชาติเปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 1970 ถึง 2019 กว่าร้อยละ 91 ของการเสียชีวิตจากภัยสภาพอากาศทั้งหมด เกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา อย่างไรก็ตามประเทศที่ได้รับผลกระทบภัยธรรมชาติรุนแรงที่สุดเหล่านี้ กลับมีการเตรียมการปรับตัวและรับมือกับภัยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศน้อยที่สุด

“ประชากรในประเทศเหล่านี้จะได้รับความเสี่ยงสูงสุดจากสภาพอากาศที่รุนแรง พวกเขาอาจอาศัยอยู่ในสถานที่ที่เสี่ยงต่อน้ำท่วมและภัยแล้งมากกว่า แต่กลับเข้าถึงทรัพยากรในการจัดการกับความเสียหายและการฟื้นฟูได้น้อยกว่า” เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ กล่าว

นาย Guterres เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทำลายวงจรแห่งความยากจนและภัยพิบัติด้วยการปฏิบัติตามข้อตกลงปารีสปี 2015 โดยมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และการนำกรอบเซนไดเพื่อการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติไปใช้

เด็กนักเรียนในกัมพูชากำลังฝึกซ้อมรับมือภัยพิบัติ  Cr: UN News

เขากล่าวว่า อีกหนึ่งเครื่องมือในการจัดการกับความไม่เท่าเทียมในการรับมือกับภัยพิบัติจากสภาวะโลกร้อนในระดับโลก นั่นก็คือกองทุนการสูญเสียและความเสียหายจากสภาวะโลกร้อน (Loss and Damage Fund) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในการประชุม COP28 ในช่วงต้นเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้

ในขณะที่ โครงการ Early Warnings for All ที่ตั้งเป้าขยายการแจ้งเตือนภัยพิบัติล่วงหน้าให้เข้าถึงประชากรทุกคนทั่วโลกภายในปี 2027 ก็จะมีบทบาทสำคัญเช่นกันในการปกป้องประชาชนจากความเสี่ยงภัยพิบัติที่เพิ่มขึ้นจากผลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ที่มาข้อมูล: UN News

ภาพจาก: Reuters

related