เหตุการณ์แผ่นดินไหวโมร็อกโกนับเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในรอบ 1 ศตวรรษ มีความรุนแรงถึง 6.8 แมกนิจูด ซึ่งสร้างความเสียหายเรียกได้ว่ามหาศาล และแผ่นดินไหวครั้งนี้จะสถานการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง เราจะสรุปให้ฟัง
แผ่นดินไหวโมร็อกโกครั้งนี้เกิดเมื่อเวลา 23.11 น.ตามเวลาท้องถิ่นเมื่อวันศุกร์ (22.11 GMT) หรือราว 05.11 น.ตามเวลาประเทศไทยเช้าวันเสาร์ (9 ก.ย.) ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวตั้งอยู่ในเทือกเขาไฮแอตลาส ห่างจากเมืองที่สำคัญทางเศรษฐกิจของโมร็อกโก อย่าง เมืองมาร์ราเกช ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 70 กว่ากิโลเมตร
แผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในรอบ 120 ปี
แผ่นดินไหวโมร็อกโกที่เกิดขึ้นวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.8 ริกเตอร์ ซึ่งอยู่ในประเภทรุนแรง มีรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 2,000 ราย และเจ้าหน้าที่กำลังพยายามนำผู้เสียชีวิตออกจากซากปรักหักพัง อีกทั้งยังมีผู้คนจำนวนมากถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล จากการสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา เผยว่าแผ่นดินไหวขนาดนี้ในภูมิภาคนี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่คาดคิด รายงานระบุว่ามีแผ่นดินไหวขนาด 5 ริกเตอร์หรือสูงกว่าเกิดขึ้น 9 ครั้งในพื้นที่นี้นับตั้งแต่ปี 1900 แต่ไม่มีครั้งใดที่มีขนาดสูงกว่า 6 ริกเตอร์เลย
แผ่นดินไหวอยู่ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวและเศษฐกิจเพียง 72 กิโลเมตร
ศูนย์กลางแผ่นดินไหวโมร็อกโกอยู่ไม่ไกลจากเมืองมาร์ราเกช ซึ่งเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจยอดนิยม ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 70 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรประมาณ 840,000 คน แต่มีการบอกเล่าถึงความรู้สึกที่สัมผัสได้มันอาจไกลถึงทางเหนือหรือคาซาบลังกาเลยทีเดียว
บ้านเรือนพังทลาย แหล่งมรดกโลกบางส่วนเหลือแต่เศษปูน
แผ่นดินไหวโมร็อกโกครั้งนี้ทำให้เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมและเมืองใหญ่อันดับสี่ของโมร็อกโก อย่าง เมืองมาร์ราเกช ก็ได้รับความเสียหาย มัสยิดคูตูเบีย (Koutoubia Mosque) ซึ่งเป็นมัสยิดเก่าแก่และใหญ่ที่สุดในมาร์ราเกช สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 หรือราว พ.ศ.1158 ได้รับความเสียหายหนักอย่างที่ไม่สามารถประเมินได้
กำแพงอิฐแดงโบราณอันเลื่องชื่อที่สร้างล้อมรอบย่านเมดินาของเมืองมาร์ราเกชก็พังทลายลงมา ย่านโบราณที่ได้รับการรับรองเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก แหล่งมรดกโลกหลายส่วนพังทลายลงมาเหลือเพียงกองหินและเศษปูน
ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า บางเมืองถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง บ้านเรือนเกือบทั้งหมดในพื้นที่ของหมู่บ้านอัสนีได้รับความเสียหาย มีผู้เสียชีวิตหลาย 100 ราย ในเมืองอัล ฮาอูซ และเกือบ 200 รายเสียชีวิตในเมืองทารูดันท์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโมร็อกโก
หลายประเทศยื่นมือช่วยเหลือ
ผู้นำโลกหลายคนแสดงความเห็นอกเห็นใจกับแผ่นดินไหวโมร็อกโกในครั้งนี้และยื่นมือให้การสนับสนุนโมร็อกโก เช่น ตุรกี เพิ่งประสบพบเจอกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ไปเมื่อต้นปี ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน ผู้นำตุรกีเผยว่าพร้อมส่งเจ้าหน้าที่ 265 คน และเต็นท์ 1,000 หลังไปยังโมร็อกโกเพื่อสนับสนุนความพยายามช่วยเหลือ
แอลจีเรีย ซึ่งตัดความสัมพันธ์ทางการฑูตกับโมร็อกโกในปี 2564 กลับมาเปิดน่านฟ้าอีกครั้งเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและเที่ยวบินทางการแพทย์ที่เข้าและออกจากประเทศอาหรับ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐอเมริกา และประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวว่า พวกเขาพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ยังมีผู้นำโลกอีกหลายคนแสดงความเห็นใจแผ่นดินไหวโมร็อกโกและพร้อมช่วยเหลือ เช่น นายกรัฐมนตรีนเรนดรา โมดีของอินเดียในที่ประชุม G20, ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย รวมทั้ง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย แสดงความเสียใจต่อเหตุแผ่นดินไหวโมร็อกโก เเละสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ ติดตามประสานให้ความช่วยเหลือคนไทยที่อาศัยอยู่ในบริเวณแผ่นดินไหว และพื้นที่โดยรอบเป็นการด่วนพร้อมรายงานทุกระยะ
ภาพ : Reuters
เนื้อหาที่น่าสนใจ :