svasdssvasds

"โลกร้อน" มหาสมุทรดูดซับความร้อน 90% ทำทะเลเดือด เป็นอันตรายต่อโลกมนุษย์

"โลกร้อน" มหาสมุทรดูดซับความร้อน 90% ทำทะเลเดือด เป็นอันตรายต่อโลกมนุษย์

ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้โลกของเราร้อนขึ้นมาก ปัญหาโลกร้อนได้ทำให้มหาสมุทรดูดซับความร้อน 90% จนทำเอาทะเลเดือด ซึ่งเป็นอันตรายต่อโลกมนุษย์

รู้หรือไม่ ? ว่าปัญหาโลกร้อน โลกรวน ทำให้มหาสมุทรต้องดูดซับความร้อน 90% และจะทำให้ทะเลเดือด ซึ่งการที่ทะเลเดือด หรือมหาสมุทรร้อนขึ้นทุกขณะเป็นสัญญาณที่ไม่ดีกับโลก และมนุษย์เรา มีข้อมูลจากจาก “เบย์เลอร์ ฟอกซ์ เคมเปอร์" ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์โลก สิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์ดาวเคราะห์แห่งมหาวิทยาลัยบราวน์ กล่าวกับซีเอ็นบีซี ว่า กว่าร้อยละ 90 ของความร้อนบนโลกที่มาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สามารถพบได้ในมหาสมุทรที่อุ่นขึ้น ซึ่งบางส่วนอยู่ในพื้นผิวมหาสมุทร และบางส่วนอยู่ที่ระดับความลึก ทั้งหมด คือสาเหตุที่อุณหภูมิในมหาสมุทรสูงเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้จากการสำรวจ พบว่า มหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงเป็นประวัติการณ์ อุณหภูมิพื้นผิวเฉลี่ยทั่วโลกแตะระดับสูงสุดที่ 69.73 องศาฟาเรนไฮต์หรือ 20.96 องศาเซลเซียส ในวันที่ 31 กรกฎาคม ตามชุดข้อมูลที่ดูแลโดย “โคเปอร์นิคัส” หน่วยงานสังเกตการณ์โลกในโครงการอวกาศของสหภาพยุโรป ซึ่งย้อนกลับไปใน ปี 1979 ชุดข้อมูลเฉพาะนี้วัดอุณหภูมิที่ประมาณ 33 ฟุตใต้พื้นผิวมหาสมุทร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่ในมหาสมุทรนอกชายฝั่งฟลอริดา เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของผลกระทบที่ชัดเจนขึ้นของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพราะมีอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 101 องศาฯ NASA กล่าวว่า เดือนกรกฎาคมเป็นเดือนที่อบอุ่นที่สุดของการบันทึกย้อนหลังไปถึงปี 1880

โดยอุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลที่สูงเป็นประวัติการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจากหลายปัจจัย รวมถึงปรากฎการณ์ "เอลนีโญ" ซึ่งกำลังมีผลอยู่ในขณะนี้ เช่น เอลนีโญในมหาสมุทรแปซิฟิก และรูปแบบที่คล้ายกันในมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งปัจจุบันร้อยละ 44 ของมหาสมุทรทั่วโลกกำลังเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า คลื่นความร้อนในทะเล ข้อมูลของ ซาราห์ แคพนิก หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของสำนักงานสมุทรศาสตร์และบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ (National Oceanic and Atmospheric Administration : NOAA)  ระบุว่า เปอร์เซ็นต์สูงสุดของมหาสมุทรทั่วโลกประสบกับคลื่นความร้อนในทะเลตั้งแต่ปี 1991

อย่างไรก็ตามมหาสมุทรที่อุ่นขึ้นทำให้เกิดพายุที่รุนแรงขึ้น "เฮอริเคน" และ "ไซโคลนเขตร้อนและนอกเขตร้อน" ดึงพลังงานส่วนใหญ่มาจากอากาศอุ่นและชื้นใกล้พื้นผิวมหาสมุทร น้ำทะเลที่ร้อนขึ้น หมายถึงอากาศที่อุ่นขึ้นและชื้นขึ้น ซึ่งจากนั้นจะมีพลังงานมากขึ้นนำไปสู่พายุที่แรงขึ้นแต่ผลกระทบของน้ำทะเลที่ร้อนขึ้นต่อพัฒนาการของพายุเฮอริเคนนั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับภูมิภาคของมหาสมุทรที่มีอุณหภูมิเพิ่มขึ้นสูงสุด อุณหภูมิของมหามหาสมุทรแอตแลนติกเขตร้อนลึกทางตอนใต้ของละติจูด 20 องศา วิกฤตเป็นพิเศษ และที่ใดก็ตามที่พายุเฮอริเคนก่อตัวขึ้น มหาสมุทรที่ร้อนระอุจะเสริมความแข็งแกร่ง

โดยการที่อุณหภูมิของมหาสมุทรที่สูงเป็นประวัติการณ์ทำให้เกิดพายุที่รุนแรงขึ้น ฆ่าสิ่งมีชีวิตอย่าง ปลา แนวปะการัง เร่งการเจริญเติบโตของสาหร่ายที่เป็นอันตราย และในระยะยาวทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ทั้งนี้ภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิตรวมถึงมนุษย์ด้วย ที่สำคัญความร้อนเหล่านั้นส่งผลให้มหาสมุทรดูดซับความร้อน

นอกจากนี้มหาสมุทรที่อุ่นขึ้นจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลและความเสี่ยงจากน้ำท่วมชายฝั่ง โดยทั่วไปแล้ว ประมาณ 2 ใน 3 ของการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลทั่วโลกเกิดจากน้ำแข็งละลายจากแอนตาร์กติกา กรีนแลนด์ และธารน้ำแข็งในทวีป และอีก 1 ใน 3 เกิดจากอุณหภูมิโดยรวมที่เพิ่มขึ้น

related