อุตุโลก ประกาศอย่างเป็นทางการว่า เอลนีโญเริ่มขึ้นแล้วในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยวันที่ 3 ก.ค. เป็นวันที่โลกร้อนที่สุดที่เคยบันทึกไว้ ซึ่งอุณหภูมิอากาศเฉลี่ยพื้นผิวโลกสูงถึง 17.01 องศาเซลเซียส
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ WMO ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า เอลนีโญ ได้เริ่มขึ้นแล้ว ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี เป็นจุดเริ่มต้นของอุณหภูมิโลกที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ สภาพอากาศภูมิอากาศแปรปรวน
โดยจากการบันทึกวันที่ 3 กรกฎาคม เป็นวันที่โลกร้อนที่สุด อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงถึง 17.01 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าเดือนสิงหาคม 2016 ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกอยู่ที่ 16.92 องศา นี่คือสัญญาณสำคัญที่บอกว่าโลกร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
ระวัง! นักธรณีวิทยาเตือน รอยเลื่อนใหม่ซ่อนตัวในไทย อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหว
นาซาเผยวิดีโอ โลกสำลักคาร์บอน ก๊าซเรือนกระจกหมุนวนบนโลกเราอย่างไร?
สัญญาณของเอลนีโญเริ่มต้นมาแล้วในช่วงต้นปีนี้ อุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นเรื่อยๆ แถมอุณหภูมิในท้องทะเลยังสูงขึ้นยังที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และในอีกหลายประเทศอากาศร้อนจัดจนอุณหภูมิทุบสถิติ ไม่ว่าจะฝรั่งเศส สเปน จีน หรือญี่ปุ่น
โดยสเปนเป็นประเทศแรกใช้ระบบตั้งชื่อและจัดอันดับคลื่นความร้อน ช่วยสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชยเกี่ยวกับอันตรายของคลื่นความร้อน ช่วยในการเตรียมแผนรับมือได้เป็นอย่างดี
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดที่เกิดขึ้นนั้นมาจากการรวมกันของเอลนีโญที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และการปล่อยก๊าซคาร์บอนที่มีต่อเนื่อง ส่งผลให้โลกร้อนขึ้น
นักวิจัยด้านสภาพอากาศ เผยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่อบอุ่นขึ้น ปรากฏการณ์เอลนีโญกำลังเริ่มขึ้น และคาดว่าจะมีการทำลายสถิติรายวัน รายเดือน และรายปีมากขึ้นในอีก 1.5 ปีข้างหน้า
ส่วนสถานการณ์เอลนีโญช่วงครึ่งหลังของปีนี้ คาดว่าจะรุนแรงในระดับปานกลางเป็นอย่างน้อย
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกเผยว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญกระตุ้นให้เกิดอุณหภูมิความร้อนสูงมากขึ้นในหลายส่วนของโลกทั้งนี้รวมไปถึงในมหาสมุทรด้วย
ประกาศของอุตุโลกในครั้งนี้เป็นการเตือนและส่งสัญญาณไปให้ทั่วโลกเตรียมรับมือกับปรากฏการณ์เอลนีโญ ซึ่งจะกระทบกับสิ่งมีชีวิต ระบบนิเวศ และการดำรงชีวิต