svasdssvasds

บางระกำโมเดลคืออะไร? เพื่อไทยเตรียมสานต่อโครงการ แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก

บางระกำโมเดลคืออะไร? เพื่อไทยเตรียมสานต่อโครงการ แก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก

เลือกตั้ง 66 เพื่อไทยเดินหน้าสานต่อโครงการ "บางระกำโมเดล" เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากให้จังหวัดลุ่มน้ำต่ำอย่างสุโขทัยและพิษณุโลก เพื่อให้บริหารจัดการน้ำได้อย่างยั่งยืน

วันนี้ 12 มี.ค. 2566 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทยและประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมแสดงจุดยืนว่าจะสานต่อ “โมเดลบางระกำ” ให้กับชาวพิษณุโลก เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วม-น้ำแล้งให้กับพี่น้องประชาชน หลังจากโครงการได้ถูกชะงักไปตอนเกิดรัฐประหาร

ดังนั้น สปริงนิวส์ในคอลัมน์ Keep The World จึงอยากพาไปทำความรู้จัก โครงการบางระกำโมเดล ว่าคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรต่อการจัดการน้ำของคนพิษณุโลก

บางระกำโมเดล โครงการบางระกำโมเดล เป็นความร่วมมือแบบบูรณาการของทุกภาคส่วนในรูปแบบประชารัฐ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มต่ำระหว่างลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่าน ซึ่งเป็นกลุ่มพื้นที่ที่ประสบปัญหาอุทกภัยเป็นประจำทุกปี ซึ่งโครงการนี้ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560

ในช่วงที่ พล.อ.ฉัตรชัย ยังดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยได้สั่งการให้กรมชลประทานบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในส่วนกลางและในพื้นที่ ได้แก่ กองทัพภาคที่ 3 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 23 หน่วยงาน และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ลุ่มต่ำบางระกำ ร่วมกันวางแผนการปลูกพืชและบริหารจัดการน้ำในรูปแบบประชารัฐ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แต่ในครั้งนั้น ไม่ได้ใช้ชื่อโครงการบางระกำโมเดลซะทีเดียว แต่ใช้ชื่อโครงการอย่างเป็นทางการว่า “โครงการบริหารจัดการน้ำแบบประชาชนมีส่วนร่วม พื้นที่ทุ่งหน่วงน้ำบางระกำ” หรือ “โครงการบางระกำโมเดล 60” ทุ่งบางระกำเป็น 1 ใน 11 ทุ่งที่ได้รับการจัดสรรปฏิทินการเก็บเกี่ยวผลผลิตใหม่ก่อนฤดูน้ำหลาก

วิธีการจัดการน้ำของบางระกำโมเดล

โดยวิธีจะเป็นการเปลี่ยนปฏิทินเกษตรเสียใหม่ โดยเลื่อนเวลาการเก็บเกี่ยวข้าวให้เสร็จก่อนฤดูน้ำหลากจะมาถึง โดยมุ่งเน้นครอบคลุมพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำยมและน้ำน่าน 2 จังหวัด คือ พิษณุโลกและสุโขทัย เป็นพื้นที่รวม 265,000 ไร่ ให้สามารถเพาะปลูกข้าวได้ตามกำหนดปฏิทินใหม่ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน จากปกติ ต้นเดือนพฤษภาคม

อีกทั้งวิธีนี้จะช่วยทำให้ประหยัดงบประมาณในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร และสามารถใช้พื้นที่นาเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ดังเดิม อีกทั้งยังเป็นพื้นที่รองรับน้ำหลากจากลุ่มน้ำยมในช่วงน้ำหลากได้ด้วย ลดการเกินน้ำท่วมในพื้นที่ทางการเกษตรและในตัวเมืองชุมชนสุโขทัย

ทุก ๆ ปียามน้ำหลาก คนสุโขทัยและพิษณุโลกจะต้องเผชิญกับน้ำท่วมเสมอ วิธีนี้สามารถชะลอการระบายน้ำสู่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาได้สูงสุด 400 ล้านลูกบาศก์เมตร และยังช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เสริมจากผลิตภัณฑ์ข้าว และการทำอาชีพประมง การแปรรูปผลผลิตจากปลา ในช่วงที่รับน้ำเข้าทุ่งได้อีกด้วย เพราะนอกจากจะเก็บข้าวเสร็จไปแล้ว ก็สามารถใช้พื้นที่นาทำประโยชน์อื่น ๆ ได้อีก

กระบวนการดังกล่าว เป็นเสมือนแก้มลิง ที่เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ชาวนาก็จะได้ไม่ต้องจมทุกข์กับน้ำท่วมนาข้าวที่ยังไม่เก็บเกี่ยว แต่เป็นเก็บเกี่ยวเสร็จไปแล้ว แล้วใช้ที่นาของตนเองเป็นพื้นที่ชะลอน้ำ ให้น้ำท่วมเข้าตัวเมืองจังหวัดและชุมชนโดยรอบให้น้อยที่สุด

จากความสำเร็จของการดำเนินโครงการบางระกำโมเดล 60 กรมชลประทานได้ขยายผลมาดำเนินงานโครงการในปี2561 และดำเนินการต่อเนื่องในปี 2562 โดยในปี 2561 ได้มีการขยายพื้นที่โครงการเพิ่มขึ้น จากเดิม 265,000 ไร่ เป็น 382,000 ไร่ รองรับปริมาณน้ำได้มากกว่า 550 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จากเดิมรับน้ำได้เพียง 400 ล้าน ลบ.ม. ส่วนการดำเนินโครงการในปี 2562 ยังมีพื้นที่ดำเนินการเท่ากับปี 2561 เนื่องจากเต็มศักยภาพแล้ว แต่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการให้ดียิ่งขึ้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ

และการในเดินหน้าหาเสียงของพรรคเพื่อไทยในครั้งนี้ ได้ประกาศว่าจะคืนชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชนอีกครั้ง ด้วยการ ขยายคลอง เพื่อระบายน้ำจากแม่น้ำน่านลงสู่แม่น้ำยม ไม่ให้น้ำค้างอยู่ในนาของประชาชนนานเกินไป และอย่างที่ 2 คือการทำแก้มลิงขนาดใหญ่ เพื่อดักน้ำไหลหลากให้พี่น้อง และอย่างที่ 3 คือ การปรับปรุงอ่างเก็บน้ำชุมชนเพื่อให้มีน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้ง

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย นอกจากนี้อุปสรรคในของเกษตรกรที่ก่อให้เกินหนี้สินมากมาย หากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลเราพร้อมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทันที เริ่มจากการพักชำระหนี้เกษตรกร 3 ปี พร้อมกับนโยบาย 3ดี ได้แก่

  1. ‘ดินดี น้ำดี’ นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำการเกษตรเพื่อทำให่น้าและดินเหมาะสมกับการเพาะปลูก
  2. ‘เมล็ดพันธุ์ดี’ ช่วยทุ่นแรงในเกษตร ในการหาเมล็ดพันธุ์ที่ดีในการเพาะปลูก
  3. ‘ขายได้ราคาดี’ ราคาสินค้าเกษตรต้องขึ้นยกแพง ภายใน 4 ปี พี่น้องชาวเกษตรกรจะเพิ่มขึ้น 3 เท่า

นอกจากนี้เรื่องการท่องเที่ยว พรรคเพื่อไทยตั้งใจพี่จะพัฒนาให้สนามบินพิษณุโลกกลายเป็นสนามบินนานาชาติ เพิ่มเที่ยวบิน และสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คนรุ่นใหม่ได้มีทางเลือกได้ทำในสิ่งที่สนใจ

related