ประเทศจีน และฝรั่งเศส ต่างทุ่มงบประมาณในการดูแลสิ่งแวดล้อม เป็นวงเงินกว่า 10,000 ล้านหยวน และ 1,500 ล้านยูโร ตามลำดับ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 5 หมื่นล้านบาท
เอลิซาเบต บอร์น (Élisabeth Borne) นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ได้จัดงบประมาณให้กับกองทุนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นวงเงินกว่า 1,500 ล้านยูโร (5.41 หมื่นล้านบาท) ซึ่งจะจัดสรรให้กับเทศบาลส่วนท้องถิ่น เพื่อเร่งดำเนินการเปลี่ยนแปลงด้านระบบนิเวศภายในประเทศ
เอลิซาเบต บอร์น เผยว่า การลงทุนในกองทุนด้านสิ่งแวดล้อมครั้งนี้จะช่วยให้เทศบาลส่วนท้องถิ่นได้ดำเนินการแก้ไขเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และจะนำเสนอแผนด้านพลังงานและแผนแม่บทในระยะยาวด้านการวางแผนระบบนิเวศในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้
"ด้วยแผนนี้เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงทางนิเวศวิทยา เราจะดำเนินการในทุกด้านของชีวิต (เช่น) อาคาร การคมนาคมขนส่ง อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การจัดการน้ำ" บอร์น กล่าว
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง :
นายกฯ ฝรั่งเศส กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศไม่ใช่ความเสี่ยงแต่เป็นเรื่องจริง ทุกคนได้ประสบกับปัญหานี้ด้วยตนเองในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา จึงเป็นเรื่องที่เราจะต้องรีบดำเนินการเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลง และถือเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องบอกข้อเท็จจริงกับชาวฝรั่งเศส
เช่นเดียวกันกับประเทศยักษ์ใหญ่ในเอเชีย ทางด้านประเทศจีนเองเพิ่งอัดฉีดงบประมาณกว่า 10,000 ล้านหยวน (5.26 หมื่นล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการบรรเทาภัยแล้งและการผลิตธัญพืชช่วงฤดูใบไม้ร่วง
โดยกระทรวงการคลังของจีนได้จัดสรรเงินกองทุนสำรองส่วนกลางนี้ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกมีวงเงินกว่า 6,500 ล้านหยวน (3.42 หมื่นล้านบาท) จะถูกใช้ในการอนุรักษ์น้ำและบรรเทาภัยแล้ง เพื่อรับประกันว่าประชาชนจีนจะมีน้ำดื่มและน้ำเพื่อการชลประทานทางการเกษตรที่เพียงพอ
และเงินกองทุนอีก 3,500 ล้านหยวน (1.84 หมื่นล้านบาท) จะถูกใช้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงเพื่อการผลิตธัญพืช ซึ่งจะสนับสนุนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งเพื่อให้สามารถซื้อเชื้อเพลิง ยาฆ่าแมลง เมล็ดพันธุ์ และวัสดุอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการฟื้นฟูการผลิต รวมถึงสารเคมีที่สามารถช่วยพืชผลทนแล้ง
กระทรวงการคลังจีน กระตุ้นเทศบาลท้องถิ่นแจกจ่ายเงินกองทุนฯ ที่ได้รับอย่างทันท่วงที จัดการเงินกองทุนฯ อย่างละเอียดรอบคอบ และดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการบรรเทาภัยแล้งและการผลิตธัญพืชอย่างเหมาะสม
และทางกระทรวงนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมของจีน เผยว่าภาคธุรกิจการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของจีนมีรายได้เติบโตมั่นคงในปี 2021 ด้วยจำนวนราว 2.18 ล้านล้านหยวน (11.4 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 11.8% จากปี 2020
ประเทศจีนได้จัดตั้งระบบอุตสาหกรรมการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน ซึ่งครอบคลุมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี การผลิตอุปกรณ์ การออกแบบและการก่อสร้าง ตลอดจนการดำเนินงานและการบำรุงรักษา
กระทรวงนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมของจีน เสริมว่า การปล่อยมลพิษต่ำพิเศษ การเผาขยะ เทคโนโลยีการบำบัดก๊าซเผาไหม้จากถ่านหิน และอุปกรณ์ของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนของจีน ได้ก้าวหน้าสู่ระดับชั้นนำของโลก
ขณะเดียวกันประเทศจีนได้สร้างกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังความร้อนที่มีการปล่อยมลพิษต่ำพิเศษขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วย