ปี 2568 ไทยจะแบนการนำเข้าเศษขยะพลาสติก ตอกย้ำ ไทยไม่ใช่ ถังขยะโลก

ทุกประเทศทั่วโลก มีความพยายามที่จะลดขยะ และลดพลาสติก โดยในหลายประเทศเริ่มหันมาใช้กฎหมายที่เน้นการใช้ซ้ำและการเติม เพื่อหยุดพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง 

การรณรงค์รักษ์โลก และ Keep The World แบบนี้ เกิดจากการเรียกร้องจากผู้คนกว่าล้านคนทั่วโลกทำให้รัฐบาลทั่วโลกเริ่มรับรู้ว่าทางเดียวที่จะแก้ปัญหามลพิษพลาสติกได้ก็คือการเปลี่ยนไปสู่ระบบการใช้ซ้ำ 

ในขณะเดียวกัน ประเทศไทย ก็เพิ่งผ่านกฎหมายเรื่องขยะที่ สำคัญๆ โดยในอดีตที่ผ่านมา ไทยมีพยายามหาทางจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ และ “เศษพลาสติก” นำเข้ามาจากต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ตามแผนของกระทรวงอุตสาหกรรมได้กำหนดนโยบายในการปรับลดการนำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศ พร้อมจัดทำนโยบายกำกับการนำเข้าเศษพลาสติก โดยประเทศไทย เพิ่งจะกำหนดห้ามนำเข้าเศษพลาสติกตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

นโยบายกำกับการนำเข้า เศษพลาสติกของไทย ที่จะมีขึ้นในปี 2568 นี้ เป็นสิ่งที่ สืบเนื่องมาจาก กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและราคาเศษพลาสติกในประเทศ และเพื่อไม่ให้ประเทศไทยเป็นที่รองรับเศษขยะจากประเทศอื่น 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เครื่องย่อยเศษอาหาร : เปลี่ยนขยะเป็นปุ๋ยออร์แกนิก รักษ์โลก Keep The World
• ไทยติดอันดับ 10 ประเทศที่มีขยะพลาสติกไหลลงทะเลต่อปีมากที่สุด
• ขยะพลาสติกเกลื่อนโลก แต่ ธุรกิจตลาดน้ำดื่มบรรจุขวดยังสดใส ไปได้สวย

• สาระสำคัญคุมการนำเข้าเศษขยะพลาสติก ในปี 2568 

1. ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 หรือ ปี 2025  เป็นต้นไป ไทยจะห้ามนำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศ โดยให้กระทรวงพาณิชย์ออกประกาศกำหนดให้เศษพลาสติกเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร

2. การนำเข้าเศษพลาสติกในพื้นที่เขตปลอดอากร (ในช่วงปี 2566-2567) โดยอนุญาตเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม 14 แห่งที่กำหนด ได้แก่ โรงงานทั้งหมดที่ใช้เศษพลาสติกเป็นวัตถุดิบในการผลิตเพื่อส่งออกที่ตั้งอยู่ในเขตปลอดอากร โดยให้นำเข้าไม่เกินความสามารถในการผลิตจริง รวม 372,994 ตันต่อปี 
 

สำหรับระยะเวลาารนำเข้าเศษพลาสติกในพื้นที่เขตปลอดอากรจำนวน 2 ปี แบ่งเป็น

ปีที่ 1 (2566) ให้นำเข้าปริมาณ 100% ของความสามารถในการผลิตจริง
ปีที่ 2 (2567) ให้นำเข้าปริมาณไม่เกิน 50% ของความสามารถในการผลิตจริง
ปีที่ 3 (2568) ห้ามนำเข้าเศษพลาสติกจากต่างประเทศ 

โดยการนำเข้าเศษขยะพลาสติก จะต้องมีมาตรการควบคุมดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อมิให้เกิดมลพิษในประเทศ เช่น เศษพลาสติกที่นำเข้าต้องแยกชนิดและไม่ปะปนกัน สามารถนำเข้าสู่กระบวนการผลิตโดยไม่ต้องทำความสะอาด ต้องใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเพื่อส่งออกเท่านั้น เป็นต้น

3. การนำเข้าเศษพลาสติกในพื้นที่ทั่วไป (ในช่วงปี 2566-2567) ให้นำเข้าเฉพาะกรณีที่ไม่มีเศษพลาสติกในประเทศหรือมีปริมาณไม่เพียงพอโดยมีหลักเกณฑ์ เช่น ผู้ประกอบกิจการโรงงานต้องแสดงหลักฐานว่ามีความจำเป็นในการนำเข้าและไม่สามารถหาได้ในประเทศ, นำเข้าได้ในปริมาณที่สอดคล้องกับกำลังการผลิต, นำเข้ามาเพื่อเป็นวัตถุดิบเท่านั้น (ไม่รวมถึงการคัดแยกหรือย่อยพลาสติก), สามารถนำเข้าสู่กระบวนการผลิตโดยไม่ต้องทำความสะอาด