svasdssvasds

คาร์บอนเครดิต โครงการ T-VER โตขึ้นมากกว่า 400% แค่ปลูกต้นไม้ก็สร้างรายได้

คาร์บอนเครดิต โครงการ T-VER โตขึ้นมากกว่า 400% แค่ปลูกต้นไม้ก็สร้างรายได้

ปัจจุบัน คำว่า "คาร์บอนเครดิต" กำลังเป็นที่สนใจ เพราะมันคือหลักการ แค่ปลูกต้นไม้ก็สร้างรายได้ ได้แล้ว ...โดย ตลาดคาร์บอนเครดิตโตโดดเด่น โครงการ T-VER โตขึ้นมากกว่า 400% ในช่วง 8 เดือนแรก ปี 2022

เทรนด์การรักษ์โลก รักสิ่งแวดล้อม ถือเป็นสิ่งที่คนทั้งโลกกำลังก้าวเดินไปด้วยกัน และมันเรื่องดีเป็นอย่างยิ่งหาก เอาไอเดียง่ายๆ อย่าง ปลูกต้นไม้สร้างรายได้ มาใช้ในชีวิตประจำวัน , ปัจจุบัน คำว่า "คาร์บอนเครดิต" กำลังเป็นที่สนใจ เพราะมันคือหลักการ แค่ปลูกต้นไม้ก็สร้างรายได้ ได้แล้ว ...โดย ตลาดคาร์บอนเครดิตโตโดดเด่น โครงการ T-VER โตขึ้นมากกว่า 400% ในช่วง 8 เดือนแรก ปี 2022 

โดย ประชาชนทั่วไป หากจะมอง หามูลค่า จากคาร์บอนเครดิต ก็เพียงแค่มีที่ดินปลูกต้นไม้ ก็สามารถเข้าสู่ธุรกิจนี้ได้แล้ว โดยนำไม้มาคำนวณคาร์บอนเครดิต เพื่อขายในตลาดการค้าคาร์บอนเครดิตต่อไป 

คาร์บอนเครดิต โครงการ T-VER โตขึ้นมากกว่า 400% แค่ปลูกต้นไม้ก็สร้างรายได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โดยหากมาเจาะลึก มาที่ องค์กรการบริหารก๊าซเรือนกระจก (อบก.)  ในฐานะหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการส่งเสริมการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ได้พัฒนา “โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program)” หรือที่เรียกว่า “โครงการT-VER”   

ซึ่งเวลานี้ เป็นองค์กรที่ ดำเนินการการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ในประเทศไทย โดยเป็นหน่วยงานที่ดำเนินทุกอย่าง ทุกขั้นตอนให้เป็นกลไกและเป็นระบบ  ซึ่งปัจจุบัน มีการเปิดเผยออกมาจาก อบก. ภาวะและแนวโน้มตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิตที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมโครงการ T-VER เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยช่วง 8 เดือนแรก ปี 2565 โต 425%

หากพิจารณาในเชิงมูลค่าพบว่า โครงการ T-VER ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2565 มีมูลค่า 124.8 ล้านบาท ขยายตัวสูงถึง 1,228% เมื่อเทียบกับทั้งปี 2564 หลังจากราคาคาร์บอนเครดิตปรับตัวสูงขึ้นมากจากปี 2564 ที่เฉลี่ย 34 บาทต่อตันคาร์บอนฯ เป็น 107 บาทต่อตันคาร์บอนฯ ในปี 2565

คาร์บอนเครดิต โครงการ T-VER โตขึ้นมากกว่า 400% แค่ปลูกต้นไม้ก็สร้างรายได้

แม้ว่าตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต ในไทยยังมีขนาดเล็กในช่วง 8 เดือนแรกปี 2565   เพราะถือว่า  คิดเป็นเพียง 0.3% ของก๊าซเรือนกระจกจากประเทศไทยปล่อยทั้งหมดต่อปี เท่านั้นเอง ซึ่งถือได้ว่า ต่ำกว่ามาตรการ ด้านราคาคาร์บอนในต่างประเทศอยู่มาก เช่น ระบบ Emissions Trading Scheme (ETS) ของยุโปที่ครอบคลุม 36% ของปริมาณก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดในยุโรป  ขณะที่งานวิจัยของ World bank ล่าสุดชี้ว่ามาตรการด้านราคา คาร์บอน ทั้งการเก็บภาษีคาร์บอน และระบบ ETS ในปัจจุบันน้ันครอบคลุม 23% ของก๊าซเรือนกระจกทั้งโลก

อย่างไรก็ตาม โครงการเหล่านี้ กำลังเป็นอีกหนทางที่จะร่วมกันสร้างแนวป้องกันไม่ได้ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรงมากขึ้น ในอนาคตนั่นเอง 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ของโครงการ T-VER  ได้ที่

related