ไมโครพลาสติกในน้ำนม ที่นักวิจัยตรวจพบนี้มีสูงถึงกว่า 76% จากกลุ่มตัวอย่างที่เก็บข้อมูล ซึ่งเป็นพลาสติกที่ใช้ในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ เสื้อผ้าใยสังเคราะห์ รวมถึงเครื่องอำสางบางชนิด
การตรวจพบในครั้งนี้ เป็นงานวิจัยที่ได้เผยแพร่ ตีพิมพ์ในวารสารของ Journal Polymers โดยหนึ่งในทีมผู้ศึกษา ดร.Valentina Notarstefano ได้กล่าวว่า การตรวจพบไมโครพลาสติกในน้ำนมแม่นี้มีความเสี่ยงสูงต่อประชากรทารกในปัจจุบันจนเป็นที่น่ากังวลใจอย่างมาก
หลังจากนี้จึงต้องมีการประเมินเพื่อหาวีธีการหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารปนเปื้อนไมโครพลาสติกในน้ำนมในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์และระหว่างการให้นมบุตร แต่อย่างไรก็ตาม ข้อดีของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่นั้นก็มีมากกว่าข้อเสียที่จะเกิดจากไมโครพลาสติกในน้ำนม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เพิ่มความหวังใหม่ นักวิทย์จีนคิดค้น หุ่นยนต์ปลากำจัดไมโครพลาสติกในทะเล
สหรัฐฯ จ่อแบน ห้ามขาย พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ในอุทยานแห่งชาติ ภายในปี 2032
งานวิจัยดังกล่าวได้ทำการวิเคราะห์ตัวอย่างนมแม่จากกลุ่มตัวอย่างคุณแม่ที่มีสุขภาพแข็งแรง จำนวน 34 คนในกรุงโรม ซึ่งเป็นตัวอย่างเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์หลังจากคลอด พบว่า มีไมโครพลาสติกปนอยู่ในตัวอย่าง 26 คน หรือคิดเป็น 76%
ซึ่งในช่วงระหว่างการเก็บตัวอย่างงานวิจัยมีการจดบันทึกอาหารและเครื่องดื่มที่ใช้บรรจุภัณฑ์จากพลาสติก รวมถึงผลิตภัณฑ์ทางสุขอนามัยส่วนบุคลที่ผลิตมาจากพลาสติกเช่นเดียวกันแต่ไม่พบความเชื่อมโยงกับไมโครพลาสติกที่ตรวจพบในน้ำนมแม่ จึงทำให้ตระหนักได้ว่ามีการปนเปื้อนไมโครพลาสติกอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราอย่างแพร่หลาย จนถึงในระดับที่ไม่ว่าจะสัมผัสใดของมนุษย์ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยง
โดยในไม่กี่ปีที่ผ่าน ก็มีการตรวจพบไมโครพลาสติกในร่างกาย เช่น ในปี 2020 ตรวจพบในรกเด็ก หรือ ไมโครพลาสติกในเลือด และสิ่งที่มนุษย์บริโภคอยู่เป็นประจำ เช่น นมวัว และขวดโพรพิลีนที่มักใช้ในการป้อนนมทารก
ทั้งนี้ยังไม่มีการเผยแพร่ผลกระทบที่ไมโครพลาสติกมีต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ออกมาอย่างชัดเจน ยกเว้นผลกระทบที่เป็นพิษในระดับเซลล์ของมนุษย์ สัตว์ทดลอง รวมทั้งในสัตว์ทะเล เป็นต้น
จากงานวิจัยล่าสุดพบว่า ในไมโครพลาสติกประกอบด้วยโพลิเอทิลีน โพรพิลีน และโพลีไวนิลคลอไรด์ ซึ่งมักใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์จากพลาสติก โดยกล่าวว่าอาจมีอนุภาคพลาสติกที่มีขนาดเล็กกว่า 2 ไมครอนที่ทีมวิจัยไม่สามารถทำการวิเคราะห์ได้อยู่ในน้ำนมแม่
แม้ทีมวิจัยจะยังไม่สามารถระบุบรรจุภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับน้ำนมแม่และไมโครพลาสติกได้ ดร.Valentina Notarstefano ได้แนะนำคุณแม่ว่า ควรให้ความสำคัญกับอาหารและเครื่องดื่มที่บริโภคในแต่ละวัน โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์จากพลาสติก เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าใยสังเคราะห์ และเครื่องสำอางที่มีไมโครพลาสติก
ดร.Valentina Notarstefano กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า งานวิจัยชิ้นนี้ไม่ต้องการให้สร้างความตระหนกและทำให้คุณแม่เลี่ยงการให้น้ำนมแก่บุตร แต่เป็นการสร้างความตระหนักในสังคมเพื่อเป็นการกดดันให้นักการเมืองผลักดันกฎหมายที่ลดการก่อมลพิษในอนาคต
ที่มา