อ.เสรีเผย ในอนาคตพายุไต้ฝุ่นมีโอกาสกลายเป็นพายุซูเปอร์ไต้ฝุ่นได้ง่าย

 

“โลกของเรามันเหมือนถูกอบอยู่ เราอยู่ในความเสี่ยงมากขึ้น ตอนนี้น้ำร้อน อยู่ๆคุณอยากทำให้มันกลายเป็นน้ำเย็นได้เลยไหม ก็ไม่ได้ ใช่ไหม"

วันนี้ (29 ก.ย. 2565) รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้เสวนาและพูดคุยถึงประเด็น สภาวะอากาศสุดขั้ว? ว่าโลกของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง? ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร อาจารย์เสรีได้กล่าวว่า

โลกและไทยเรากำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงขึ้น จากสถิติที่ได้ไปทำงานวิจัยร่วมกับ IPCC และองค์กรระหว่างประเทศ อย่างพายุไต้ฝุ่นโนรูที่พัดขึ้นเวียดนามเมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาว่าหนักสุดในรอบ 20 ปีของเวียดนาม แต่ลองมาคิดดูว่า ไทยเราเผชิญกับพายุแบบนี้ในรอบกี่ปี โดยเฉพาะอีสาน ผมว่า ประมาณ 60 ปีได้นะ แม้ว่าตอนนี้มันจะอ่อนกำลังจากไต้ฝุ่น เป็นพายุโซนร้อนและอ่อนกำลังเป็นร่องความกดอากาศก็ตาม แต่จากสถิติที่ผมอธิบายนี้ เชื่อได้เลยว่า ในอนาคตมีโอกาสเป็นไปได้ที่ พายุไต้ฝุ่นมีโอกาสเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นได้ในอนาคต เพราะโลกของเราได้เปลี่ยนไปแล้ว อุณหภูมิของโลกกำลังสูงขึ้น และมันกำลังรุนแรงขึ้น

ตลอดทั้งปีนี้เราคาดการณ์ไว้ว่าปีนี้จะเกิดพายุ 23 ลูก และตอนนี้เหลืออีก 7-8 ลูกเท่านั้นที่ยังไม่เกิดและเราก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่า ลูกไหนมันจะกระทบกับเราได้บ้าง เพราะเรายังคาดการณ์ไม่ได้แม่นยำขนาดนั้น มันเป็นแค่การพยากรณ์ เวลาพายุมา เราทำได้แค่ แจ้งอพยพแล้วเยียว วนอยู่อย่างนี้มาตลอด 10 ปี

ปีที่แล้วเดือนสิงหาคม IPCC (คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) ได้ออกรายงานมาฉบับหนึ่ง และส่งให้กับเหล่าผู้นำโลก ให้พวกเขาเห็นว่าโลกมันรุนแรงและเรามีรายงานนี้เพื่อให้ไปคุยกันว่าจะช่วยโลกยังไง และประเด็นที่โลกจับตามองในขณะนั้น รายงานนี้มีความสำคัญอยู่ 3 คือ “แพร่หลาย รวดเร็ว รุนแรง” นืคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับโลกใบนี้

ทั่วโลกเขาก็มีการประชุมหารือกันและตกลงกันว่า ประเทศนี้กำหนดจะลดคาร์บอนให้ได้ในระยะสั้น ซึ่งในความเป็นจริงอาจจะนานกว่านั้น ที่เราจะทำตามเป้าได้ โลกของเราเหมือนถูกอบอยู่ น้ำทะเลมันก็ร้อนอยู่แล้ว แต่อยู่ ๆ เราจะไปทำให้มันเย็นลงเลยได้ไหม มันไม่ได้ มันก็ต้องใช้เวลา

ประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ ก็พยายามกัน แต่ก็ยังไม่พอ อินเดียกับจีนก็ออกมาบอกว่าจะใช้ถ่านหินให้มากขึ้น เพราะต้นทุนนถูกขึ้น ตอนนี้เยอรมันก้กลับมาใช้ถ่านหิน เพราะฉะนั้นตัดไปได้เลยที่จะลดมลพิษให้ได้ 50% เร็วๆนี้ ไทยเราปล่อยไม่ถึง 1% นะแค่ 0.6 เท่านั้น สุดท้ายกลายเป็น ไม่ชนะและก็ไม่แพ้ แต่ถ้าเป็นชัยชนะจริงก็คงเป็นชัยชนะที่เปราะบาง โลกคุยกัยไม่รู้เรื่องเลยต้องกลับมามองตัวเอง

ผมมีข้อมูลวิจัยนะ เรื่องพายุหมุน ถ้าโลกอุณหภูมิ 1.5 จะเพิ่มขึ้น 10% อุณหภูมิเพิ่ม 2 องศาจะเป็น 1.3% และอุณหภูมิ 4 จะเพิ่มอีก 20% คำถามคือ อันที่เป็นไต้ฝุ่น มันก็จะกลายเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่น ไอ้ที่เป็นโซนร้อนก็จะเป็นไต้ฝุ่น แต่จำนวนพายุไม่เปลี่ยนแปลงนะ ตอนนี้อาจมี 15 ลูก อนาคตอาจมีสัก 18 ลูก คือมันจะรุนแรงมากขึ้น

ท่านผู้ว่ากทม.ฯนับในช่วง 3 ชั่วโมงของวันว่า เป็นฝนที่ตกหนักสุดในรอบ 130 ปี แต่ผมมองเป็นช่วงหลายวันและวิเคราะห์ว่ามันคือฝน 100 ปีเพราะผมมองรายวัน แล้วแต่มุมมอง แต่ที่แน่ ๆ คือในจะตกในกรุงเทพฯเยอะขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ประท้วง ปัญหาโลกร้อน - Climate Change ทั่วทุกมุมโลก เรื่องนี้ต้องรีบแก้ด่วน

• ปภ. ย้ำเตือน 17 จังหวัด อาจน้ำท่วมฉับพลันจากอิทธิพลพายุโนรู

• ทำไมจึงชื่อ พายุโนรู ? กับเกณฑ์การตั้งชื่อพายุหมุนเขตร้อน ในแปซิฟิกตะวันตก

• ไต้ฝุ่นโนรูเข้า! เวียดนามฝนตกหนัก อพยพกว่า 200,000 คนออกจากพื้นที่เสี่ยง

• Red Code! อุณหภูมิโลกกำลังสูงขึ้น กทม.จะจมน้ำจริงไหม?

หนักกว่าปี 54 ไหม?

หลายคนถามตลอดว่า ปีนี้จะหนักกว่าปี 54 หรือไม่ ก็ต้องบอกว่าปริมาณน้ำฝนมันไม่เท่ากัน ปีนี้ฝนจะน้อยกว่าปี 54 แต่ลักษณะน้ำหลากไม่เหมือนกัน ปี 54 น้ำเหนือมันไหลลงมาและท่วมทุ่ง พื้นที่หนักสุดคืออยุธยา ซึ่งในปีนี้ผู้ที่อ่วมสุดก็ยังคงเป็นอยุธยา ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น เพราะการปล่อยน้ำและการจัดการมันยังคงเป็นเช่นเดิมและเป็นอย่างนี้มาเป็นสิบๆปีแล้ว

แต่ปีนี้ เราไม่มีน้ำเหนือ ฝนตกที่เหนือน้อยกว่า แล้วภาคกลางล่ะ ปีนี้ภาคกลางมีปริมาณฝนมากกว่าปี 54 และแน่นอนฝนทุกภาคตกมากกว่าปกติ

แล้วจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ไหม

เราก็ลองดูเอาว่า เรามีน้ำเจ้าพระยาอย่างเดียว เราก็ลองเอามาเทียบ ว่าเขาจะปล่อยน้ำมาเติมเจ้าพระยาเท่าไหร่ ลองดูสถิติแล้ว ทำไมปีที่แล้วปริมาณน้อยกว่าปีนี้ แต่เกิดน้ำท่วมหนัก แต่ตกมากกว่าเหมือนปีนี้ เพราะอะไร เพราะ ปัญหาเชิงโครงสร้าง การระบายน้ำ น้ำทะเลหนุนและถนนที่ยกสูงขึ้น ก้เลยบีบลงแม่น้ำและน้ำก็ยกตัวสูงขึ้น

และปีนี้ฝนมาเร็วและท่วมเร็ว ปีที่แล้วฝนมาและเริ่มท่วมเดือนกันยายน แต่ปีนี้มันเริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคมก็ลองดูว่าเปลี่ยนแปลงไหม แล้วพอโนรูมาทีนี้ก็ท่วมยาวไปจนถึงลอยกระทงและก็ปีใหม่เลย

แล้วประเทศไทยจะเจออะไร?

ฝั่งแล้งก็จะแล้งหนัก ฝั่งท่วมก็จะท่วมหนัก กทม.จะเจออะไรกับน้ำท่วมขังรอการระบาย น้ำท่วมจากการล้นฝั่งเหมือนปี 38 น้ำทะเลหนุนสูง 10 ปีตั้งแต่น้ำท่วมที่ผ่านมาเราทำอะไรไปบ้าง เรายกถนน เราสร้างคันกั้นน้ำ และเราก็ทำแบบนี้เรื่อย ๆ อยู่อย่างนี้วนไป และซอนในกรุงเทพฯก็ต่ำลงไปกว่าถนนเรื่อย ๆ

ฝนที่ก่อให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ มันก้กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เราคงหนีไม่พ้นหรอก ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย

หากถามว่าทำไมมันถึงจะหนักขึ้นเรื่อย ๆ มันมีหลายปัจจัยที่เปลี่ยนไป อย่างแรกเลยคือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่มันแปรปรวน อย่างที่สองคือ โครงสร้างของเมืองเปลี่ยนไป กรุงเทพฯแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเมืองแห่งน้ำเลยเพราะท่วมบ่อย น้ำทะเลก็หนุนขึ้นมาเรื่อย ๆ IPCC เขาก็มีคาดการณ์ไว้ให้เราเห็น มีงานวิจัยมากมายที่มันไม่ได้เก่าเลย ญี่ปุ่นก็คาดการณ์ เยอรมนี นาซ่า เขาก็คาดการณ์ว่าไทยจะเจอน้ำท่วม แต่อยู่ที่ว่าเรายอมรับการคาดการณ์นี้ไหม