เป็นไปได้ไหม กับการที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายในการฉีดวัคซีนโควิด19 ให้ครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้ ? หากคำนวนจากอัตราการฉีดปัจจุบัน ด้วยยอด 4.1 แสนโดสต่อวัน รัฐบาลก็ยังคงล่าช้ากว่ากำหนด 22 วัน และตัวแปรสำคัญคือปริมาณวัคซีนที่จะเป็นตัวชี้ชะตาว่าเป็นไปได้หรือไม่
รัฐบาลตั้งเป้าให้ประชาชนคนไทยฉีดวัคซีนโควิด19 ครบ 100 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งจะครอบคลุมประชากรกว่า 70% ซึ่งทาง ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ออกมาแถลงในวันนี้ (8 มิ.ย. 64) ว่า ประเทศไทยได้มีการฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. ถึงวันที่ 7 มิ.ย. ไปแล้วกว่า 4,634,941 โดส เหลืออีก 95,365,059 โดส
โดยวานนี้ (7 มิ.ย. 64) ได้ฉีดวัคซีนเพิ่มกว่า 416,847 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 388,872 โดส และเข็มสองอีก 27,975 โดส
หากฉีดในอัตรานี้ไปจนถึงสิ้นปี (31 ธ.ค. 64) ซึ่งเหลืออีก 207 วัน จะฉีดได้ 86,287,329 โดส รวมกับที่ฉีดไปก่อนหน้านี้ ได้ 90,922,270 โดส ขาดอีก 9,077,730 โดส เท่ากับว่ารัฐบาลจะฉีดวัคซีนล่าช้ากว่ากำหนดการถึง 22 วัน
หากจะฉีดให้ครบภายในกำหนด จำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนวันละ 460,700 โดส ตกเดือนละ 13,821,000 โดส หรืออย่างน้อยให้คงอัตราฉีดเท่าเดิมได้ก็ต้องมีวัคซีนมาเสริม อย่างน้อย 12,505,410 โดส
ตัวแปรสำคัญที่แผนการนี้จะเป็นไปได้คือจำนวนของวัคซีน โดยข้อมูลล่าสุดที่มี คือ คำสั่งซื้อวัคซีนแอสตราเซนเนก้าทั้งหมด 61 ล้านโดส แบ่งเป็น
มิ.ย. 6 ล้านโดส
ก.ค. 10 ล้านโดส
ส.ค. 10 ล้านโดส
ก.ย. 10 ล้านโดส
ต.ค. 10 ล้านโดส
พ.ย. 10 ล้านโดส
ธ.ค. 5 ล้านโดส
ก็ต้องมารอลุ้นกันว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลจะฉีดให้ครบ 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปีนี้