การล้างมือที่ถูกต้อง ช่วยลดความเสี่ยงจากเชื้อไวรัสโคโรน่า รวมถึงโรคติดเชื้อจำนวนมากที่แพร่กระจายได้ง่ายด้วยการสัมผัส
การล้างมือที่ถูกต้อง นอกจากช่วยลดความเสี่ยงจากเชื้อไวรัสโคโรน่าแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดเชื้ออีกจำนวนมากที่แพร่กระจายได้ง่ายด้วยการสัมผัส ซึ่งโรคที่พบบ่อยคือ โรคติดเชื้อทางเดินอาหารเช่นโรคอุจจาระร่วง หรือโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ อย่าง ไข้หวัดและโรคปอดบวม
ข้อมูลจากกองระบาดวิทยา ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 9 กันยายน 2562 เผยว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยอุจจาระร่วง ทั้งสิ้น 716,513 ราย เสียชีวิต 3 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 1,095.21 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด คือ มากกว่า 65 ปีคือร้อยละ 13.75 กลุ่มอายุ 15 – 24 ปีคิดเป็นร้อยละ 11.97 และ กลุ่มอายุ 25 – 34 ปีคิดเป็นร้อยละ 11.34
ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อประชากรหนึ่งแสนคนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ปราจีนบุรี มีอัตราป่วยอยู่ที่ 2,195.30 ต่อประชากรหนึ่งแสนคน จันทบุรีตามมาไม่ห่างมากที่ 1,970.58 และมหาสารคาม สมุทรสงคราม และภูเก็ตที่ราว 1,800 แต่ถ้าดูสถิติตามภูมิภาค อัตราเจ็บป่วยสูงสุดเรียงตามลำดับ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และ ภาคใต้
ผลการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่า การล้างมืออย่างถูกวิธีเพียง 15 วินาทีเท่านั้น จะสามารถลดเชื้อโรคได้ถึงร้อยละ 90
และนี่คือขั้นตอนการทำความสะอาดมือที่ได้ประสิทธิภาพ ทุกขั้นตอนให้ทำ 5 ครั้ง สลับกันทั้ง 2 ข้าง
ควรล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และก่อนเตรียมปรุงอาหาร รวมถึงหลังเข้าห้องน้ำหรือห้องส้วม หลังหยิบจับสิ่งสกปรก หลังเยี่ยมผู้ป่วยในสถานพยาบาล หลังสัมผัสหรือเล่นกับสัตว์เลี้ยง และหลังกลับมาจากนอกบ้าน เท่านี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อจำนวนมากที่แพร่กระจายได้ง่ายด้วยการสัมผัส
ล้างมือ 7 ขั้นตอนข้างต้น แนะนำให้ล้างมือด้วยน้ำและสบู่เป็นหลัก แต่ถ้าหากหาน้ำไม่ได้ ก็สามารถใช้เป็นเจลล้างมือแทนได้เช่นกัน