สหรัฐอเมริกา และ จีน กลายเป็นสองประเทศที่ประกาศความคืบหน้าในการต่อสู้กับโรคโควิด 19 โดยทั้งสองประเทศได้ประกาศว่า ได้ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศ ถึง 200 ล้านโดสแล้ว และนับเป็นอีกก้าวความสำคัญในความคืบหน้าของการต่อสู้โควิด
โจ ไบเดน ประธานาธิบดี ของสหรัฐฯ ประกาศว่า สหรัฐฯ สามารถฉีดวัคซีนต้านโควิด19 ครบ 200 ล้านโดสแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่เขาได้ตั้งไว้ภายใน 100 วันแรกที่เขาได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ
โดยก่อนหน้านี้ ทันทีที่รับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา นายโจ ไบเดนตั้งเป้าหมายการฉีดวัคซีนต้านโควิดให้แก่ชาวอเมริกัน 100 ล้านโดส ภายใน 100 วันแรกของการทำงาน ซึ่งบรรลุไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก่อนกำหนดถึง 1 เดือนกว่า และล่าสุดก็สามารถฉีดไปถึง 200 ล้านโดสแล้ว ทั้งที่ตอนนี้ยังไม่ถึง 100 วันในการครองตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศ
ทั้งนี้ ไบเดนกล่าวต่อไปว่า จากนี้ไป การฉีดวัคซีนต้านโควิดให้แก่ชาวอเมริกัน เริ่มก้าวเข้าสู่ “เฟสใหม่” แล้ว ซึ่งมีเป้าหมายจะฉีดวัคซีนให้แก่ชาวอเมริกันในวัยผู้ใหญ่ให้ครบทุกคนทั้งประเทศ
ขณะนี้ชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ทุกคน คือผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป มีสิทธิ์ที่จะได้รับการฉีดวัคซีนครบทุกคนในสัปดาห์นี้ โดยไม่ต้องรออีกต่อไป และกว่า 80% ของชาวอเมริกันที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป จะได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 เข็มภาย แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวอเมริกันอีกประมาณ 130 ล้านคน ที่ยังไม่ได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มแรกเลย
ด้าน จีน ได้มีการเปิดเผย จาก "หมี่ เฟิง" โฆษกคณะกรรมการสุขภาพของรัฐบาลจีน ประกาศว่า จีนฉีดวัคซีนต้านโควิดให้แก่ชาวจีนกว่า 200 ล้านโดสทั่วประเทศแล้ว โดยอัตราการฉีดวัคซีนในจีน อยู่ที่ 12.2% เป็นอันดับที่ 8 ของโลก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ทำความรู้จักวัคซีนโควิด19 "สปุตนิก วี" ของดีจากรัสเซีย
• คนรักหมาเฝ้าระวัง!เผยงานวิจัยพบโควิดสายพันธุ์อังกฤษอาจมีสุนัขเป็นต้นตอ
• ถอดบทเรียนโควิด19ระบาดในอังกฤษ วัคซีนคือเป็นกุญแจสำคัญแก้ปัญหา