Coffee shop กัญชาเสรีในเนเธอร์แลนด์ ประเทศต้นแบบการอนุญาตครอบครองและใช้งาน มากว่าครึ่งทศวรรษ ด้วยการทำให้ถูกกฏหมาย ลดโทษ ช่วยลดอาชกรรม เสพ ครอบครอง ได้อย่างมีการควบคุม เกิดผลลัพธ์ดีกับรัฐและประชาชน ที่ไทยสามารถนำเป็นแบบอย่าง
กัญชา ในเนเธอร์แลนด์ ประเทศที่ ปลดล็อกกัญชา เสรี โดยมีการอนุญาตให้จำหน่ายและเสพกัญชาในเธอร์แลนด์เริ่มต้นขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 ซึ่งในช่วงดังกล่าวมีการอนุญาตให้จำหน่ายและครอบครองได้ถึง 30 กรัมต่อคนเลยที่เดียว แต่ก็เริ่มปรับให้มีการควบคุมมากขึ้นในเวลาต่อมา
ทั้งนี้กัญชายังจัดเป็น ประเภทยาเสพติดแบบไม่รุนแรง (Soft drug) ที่มีการผ่อนปรนเพื่อให้มีการจำหน่าย เสพ ปลูก และครอบครองกัญชาได้โดยไม่มีความผิด ส่วนกัญชาที่มี THC เกินกว่า 15% จะถือเป็นยาเสพติดรุนแรงและมีโทษปรับหนัก
หนึ่งในมาตรการการที่โดดเด่น คือการจำกัดสถานที่ให้ประชาชนเข้าถึงกัญชาได้เฉพาะใน coffee shop กัญชา โดยสามารถสูบในพื้นที่ในร้านได้โดยไม่มีความผิด แต่ก็มีข้อบังคับในการจำกัดอายุผู้ซื้อ การจำกัดปริมาณในการสูบ และการจัดโซนของเมืองที่สามารถอนุญาตเปิดร้าน coffee shop กัญชา ดังกล่าวนี้ไว้อย่างชัดเจน
By <a href="//commons.wikimedia.org/wiki/User:Charlesblack" title="User:Charlesblack">Charlesblack</a> - <span class="int-own-work" lang="en">Own work</span>, CC BY-SA 3.0, Link
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อนุทิน เผย เตรียมออกประกาศห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าถึงกัญชา
สรุปให้... กัญชา ใช้ยังไงให้ปลอดภัย รู้จักสาร THC และ CBD คืออะไร?
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เนเธอร์แลนด์เปลี่ยนมาใช้นโยบายแบบการแก้ปัญหาโดยยึดหลักมนุษยธรรแยกพิจารณาสารเสพติดรุนแรงและไม่รุนแรงออกจากกัน และหาทางป้องกันไม่ให้ใช้สารเสพติดรุนแรง
จนทำให้ปี 2552 เนเธอร์แลนด์ ประกาศปิดคุก 8 แห่ง และให้เจ้าหน้าที่คุกออกจากงาน 1,200 คน เนื่องจากไม่มีนักโทษในคุกจากแนวทางดังกล่าวพบว่าสามารถลดปัญหาอาชญากรรมลงได้มาก ผู้ใช้สารเสพติดก็ลดปัญหาการใช้สารของตัวเองได้ดีขึ้น
ข้อห้ามโดยทั่วไปของการครอบครองและเสพกัญชาสำหรับประชาชนทั่วไป
Coffee Shop กัญชา เสรีแบบไม่ไร้ขอบเขต
โดยยังมีกฏระเบียบ ควบคุมอย่างมีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
สังเกตสติกเกอร์สีเขียวและสีเหลืองหน้าร้าน Coffee Shop กัญชา
กัญชาเพื่อการรักษาทางการแพทย์
กัญชาทางการแพทย์ หน่วยงานที่มีอำนาจและมีหน้าที่เป็นผู้รับผิดชอบในการผลิต จำหน่าย และกระจายสินค้ากัญชาเพื่อการแพทย์แต่เพียงผู้เดียวคือ Office of Medicinal Cannabis (OMC) ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐภายใต้กระทรวงสาธารณสุข สวัสดิการ และการกีฬาเนเธอร์แลนด์ ผู้ดูแลทั้งทางด้านการเพาะปลูก ผลิต จำหน่าย และกระจายสินค้า medicinal cannabis ไปสู่โรงพยาบาล ร้านขายยา ห้องวิจัยมหาวิทยาลัย รวมทั้งการอนุญาตนำเข้าและส่งออกกัญชาทางการแพทย์ภายในประเทศทั้งหมด
โดยอาการป่วยที่ใช้กัญชาในการรักษาบรรเทา ได้แก่
ทั้งนี้ กัญชาในเนเธอร์แลนด์ ก็ได้มีความพยายามจะจำกัดการจำหน่ายและเสพให้ลดลงอย่างช้าๆ รวมถึงนโยบายการปราบปรามผู้ลักลอบปลูกกัญชาอย่างจริงจัง
ส่วนในของประเทศไทย หลังจากที่มีการปลดล็อกอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ในการนำกัญชาออกจากรายชื่อยาเสพติดประเภท 5 แล้วก็ดูเหมือนว่า ยังมีความคลุมเครือและยังไม่ได้ลงรายละเอียดออกมาเพื่อให้ประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะกับเด็กและเยาวชน
จนเมื่อมีประกาศ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้ ‘กัญชา’ เป็นสมุนไพรควบคุม
ผู้ใดที่ใช้กัญชาที่ขัดกับประกาศฉบับนี้ จะมีโทษทางอาญา มาตรา 78 มีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
แต่ก็ดูเหมือนว่า ธุรกิจ ร้านค้า เล็ก ใหญ่ ต่างๆ นำเอากระแสกัญชาฟีเวอร์ในช่วงนี้รับแตกยอดสินค้าให้กับตัวเองทั้งแจ้งและไม่แจ้งให้ประชาชนที่เป็นผู้บริโภครับทราบ จนกลายเป็นข้อน่ากังวลใจสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้โดยไม่รู้มาก่อน
จาก โพตส์ของแพทย์ชนบท ที่ได้ตั้งคำถามถึงการนำเครื่องดื่มที่ผสมกัญชามาเป็นเปิดให้ซื้อกันในที่สาธารณะ โดยไม่สามารถควบคุมอายุผู้บริโภคได้อย่างเป็นรูปธรรมแบบนี้จะถือว่ามีความผิดหรือไม่ (มีการปรับถอดเมนูออกแล้วในภายหลัง) และจะทำยังไงไม่ให้กระแสกัญชานี้ กลายเป็นการมอมเมาและสร้างผลกระทบในทางลบกับคนในสังคม ที่ยังขาดความรู้ ความเข้าใจ ในการใช้งานอย่างถูกต้อง ผ่านช่องโหว่ทางกฏระเบียบที่เปิดให้เข้าถึงโดยไม่คำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนอย่างรอบคอบ