ไมค์-ซาร่า ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ หลังเจรจายาว 8 ชั่วโมง

ยังคงเป็นเรื่องราวดราม่าที่หลายคนจับตามองและให้ความสนใจ สำหรับกรณีที่ ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล ยื่นร้องต่อศาล เพื่อขอสิทธิ์ความเป็นพ่อโดยชอบธรรมและสิทธิ์ปกครองบุตรชาย น้องแม็กซ์เวลล์ ร่วมกับ ซาร่า คาซิงกินี

โดยล่าสุด 24 ธ.ค. 63 ไมค์ พิรัชต์ และ ซาร่า คาซิงกินี ได้เดินทางมายังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อทำการไกล่เกลี่ยหาข้อสรุป ใช้ระยะเวลาในการเจรจากันนานกว่า 8 ชั่วโมง ทางทนายของทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงความคืบหน้าว่า

ทนายของ ซาร่า คาซิงกินี

"วันนี้มีประเด็นเรื่องเกี่ยวกับทางคดี ทั้งเรื่องการรับรองบุตรและอำนาจการปกครองว่าจะเป็นยังไง ซึ่งจริงๆ ทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังอยากดูแลลูกอยู่แล้ว ต้องมีการคุยรายละเอียดว่าอำนาจการตัดสินใจมันจะเป็นอย่างไร และในวันนี้ยังรายละเอียดหลายจุดที่ยังไม่ตรงกัน ดังนั้นทางทนายก็เลยต้องกลับไปคุยกับลูกความแต่ละฝ่าย เพื่อที่ในนัดหน้าเราจะได้มาคุยกันอีกครั้ง คือมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นเรื่องครอบครัว เงื่อนไขค่อนข้างเยอะครับ ถามว่ามีแนวโน้มที่จะลงตัวไหม เอ่อ...ก็ดีอยู่นะครับ เพราะก่อนหน้านี้เขาไม่เคยคุยกันตรงๆ มาก่อน

ส่วนที่ถามว่าน้องแม็กซ์เวลล์ ยังต้องอยู่กับซาร่าเหมือนเดิมไหม เบื้องต้นที่คุยกันวันนี้ก็น่าจะแนวๆ นั้นนะครับ เพราะทางไมค์บอกว่าไม่ได้ติดใจ

ส่วนข้อเสนอทั้ง 4 ข้อ ที่เคยแจ้ง ทั้ง 4 ข้อนั้นมันไม่ใช่ข้อเสนอ มันเป็นแค่ข้อความเห็นของเราว่าทำไมน้องควรจะอยู่กับเรา แต่ว่าในกระบวนการไกล่เกลี่ยมันต้องถอยคนละก้าวและหันหน้าเข้าหากัน เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ได้ยึดติดกับสิ่งที่เราเคยพูดไปแล้ว แต่เราเปิดรับทุกอย่างและสามารถพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง

มันไม่ได้มีข้อเสนอเป็นข้อๆ หรอก แต่มันเป็นการพูดคุยกันมากกว่าว่า ณ วันนี้สถานะของเด็กเป็นแบบไหน และเพื่อให้เด็กได้ประโยชน์สูงสุด ควรจะเป็นอย่างไร คือถ้าเอาเรื่องเก่ามาพูดมันคงไม่จบไม่สิ้นหรอกครับ"

ความต้องการหลักของซาร่าคือ

"มันไม่ใช่ว่าเราต้องการ แต่มันเป็นคำถามว่าฝั่งนั้นเขาจะซัพพอร์ตน้องให้ได้มากแค่ไหนมากกว่า มันเป็นประเด็นแบบนั้นมากกว่า"

หมายถึงค่าใช้จ่ายใช่ไหม คำว่าซัพพอร์ต ?

"ทุกอย่าง ทุกอย่างในคดีครอบครัวมันก็จะมีหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นการอุปการะเลี้ยงดู น้องจะอยู่กับใคร อำนาจปกครอง การเยี่ยมเยียน คือต้องมีการนั่งพูดคุยกันทุกอย่าง ซึ่งถ้าถามว่าซาร่าต้องการอะไร คือ มันก็คือคุณอยากจะให้ลูกแบบไหน มีชีวิตแบบไหน เรียนที่ไหนมากกว่า

ส่วนเรื่องวันนี้ที่พอสรุปได้แล้ว คือ อาจจะเป็นเรื่องของการรับรองบุตรที่ไม่ได้ติดใจทั้ง 2 ฝ่าย แต่ว่าวันนี้ยังไม่ได้มีการเซ็นรับรองบุตรเพราะยังเซ็นกันไม่ได้ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม

กระบวนการมันเดินหน้าไปเรื่อยๆ และเราสามารถตกลงกันในรายละเอียดได้ ก็อาจจะมีคำพิพากษาของศาลเพื่อให้ฝ่ายพ่อไปจดทะเบียนก็เป็นไปได้ ดังนั้นต้องมารอดูว่าสรุปแล้วทั้ง 2 คนจะดูแลลูกกันอย่างไร คือเรายังไม่อยากลงรายละเอียดลึกมากว่าใครเสนออะไรยังไงหรือตกลงแบบไหน เพราะเรายังต้องพูดคุยตกลงกันอีกนัดหนึ่ง ถ้าหากมันไปได้ดีมันก็จบ มันก็ดีกับครอบครัวเขา แต่ถ้าพูดโดยรวมก็คือมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ทั้งนี้การนัดหมายจะเกิดขึ้นอีก ในวันที่ 12 มกราคม หลังจากนี้ต่างฝ่ายต่างก็ไปทำการบ้านกันมา”

ทางฝั่งของ ไมค์ พิรัชต์ และ ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า

ทนายเจมส์

"วันนี้เป็นไปในทิศทางที่ดีครับ ทั้ง 2 ฝ่ายรับฟังเหตุผลกันมากขึ้น แต่วันนี้มันยังไม่ลงตัวเป็นเพราะอะไร ประเด็นมันมีอยู่หลายประเด็นหลักๆ แต่เอาประเด็นหลักๆ ก่อนก็คือเรื่องการรับรองบุตร ซึ่งไมค์เขาไม่ได้ติด แต่เรื่องที่ยังไม่ลงตัวก็คือเรื่องอำนาจรับรองบุตร เรื่องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร เรื่องค่าเทอม ซึ่งมันเป็นรายละเอียดของเด็กคนหนึ่ง และถ้าหากมันมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงมันก็ต้องศึกษารายละเอียดเยอะมาก

ส่วนทางฝั่งนั้นเขามีการเรียกร้องอะไรเพิ่มเติมบ้างไหม ก็เป็นประเด็นเดิมๆ ที่รู้ๆ กันอยู่ แต่มันก็เกี่ยวข้องกันเด็กนั่นแหละ และเขาเข้าใจฝั่งเขาว่าเขาต้องการให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด แต่ทางฝั่งของน้องก็อย่างที่บอกว่าเขาก็ต้องดูตามศักยภาพ"

สภาพจิตใจของไมค์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

ไมค์ พิรัชต์ "ก็โอเคนะครับ ผมไม่อยากตอบอะไรมาก แต่เอาตรงๆ คือผมเบื่อกับเรื่องนี้แล้ว ไม่รู้สังคมเขาจะคิดยังไงเหมือนกัน แต่คือผมอยากให้เรื่องนี้รีบๆ จบ แค่นั่นเลยครับที่ผมคิดตอนนี้

ถามว่ามีความคิดไหมที่จะถอนฟ้อง ทำตามความตั้งใจที่เคยบอกว่าจะเก็บเงินให้ลูกเอง เพื่อมอบให้เขาในอนาคตไหม คือจริงๆ มันเป็นรายละเอียดในสำนวน ซึ่งผมไม่สามารถพูดได้ครับ"

ถ้าหากเราจะถอนฟ้อง สามารถทำได้ไหม ?

ทนายเจมส์ “มันต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่าย อันนี้พูดถึงเคสทั่วไปนะครับ และทางศาลท่านก็จะมองประโยชน์ของเด็กเป็นหลักว่าจะให้ถอนหรือไม่ให้ถอน ส่วนแนวโน้มในรอบหน้า น่าจะจบในรูปแบบที่ดีครับ เพราะท่านค่อนข้างกำชับแล้วว่าให้จบให้เร็วที่สุด แต่มันมีเงื่อนไขอะไรบางอย่าง ที่เราไม่ได้เตรียมตัวมาและมันก็มาโผล่ในรอบนี้ ดังนั้นเราก็เลยต้องขอกลับไปศึกษารายละเอียดก่อน มันกระทบต่อเด็กเป็นสำคัญ ฉะนั้นก็เลยยังไม่สามารถตัดสินใจได้ในตอนนี้”

มีนัดหน้าแบบนี้ มันจะส่งผลกระทบต่องานไหม

ไมค์ พิรัชต์ "ผมมีบิน 27 นี้แล้วครับ แต่ว่าก็ดูกันต่อไปครับ ว่าจะไปได้เมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ก็มีโควิดด้วยอะไรด้วย หลายอย่าง ตอนนี้ได้คุยกับลูก ได้คุยผ่านนาฬิกา"

ทางศาลให้คำแนะนำอะไรบ้างไหม สำหรับทนายทั้ง 2 ฝ่าย

ทนายเจมส์ "ศาลท่านแนะนำได้แค่หลักการครับ แต่ว่าในรายละเอียดท่านลงลึกไม่ได้เพราะมันเป็นเรื่องของคน 2 คน และสำคัญก็คือเรื่องของเด็ก ซึ่งท่านอยากให้มองประโยชน์ของเด็กเป็นหลัก"