ติดตามข่าวสารได้ที่ https://www.springnews.co.th
หลังจากที่วงการบันเทิงสูญเสียศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทยสากล-ขับร้อง) พ.ศ. 2532 "สวลี ผกาพันธุ์" จากไปอย่างสงบในวัย 86 ปี ที่บ้านพักของตนเองเมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 1 พ.ค. 61 นั้น
ขณะที่กลุ่มเฟซบุ๊ก "อดีตรำลึก" ได้มีสมาชิกที่ใช้ชื่อว่า "อุมัร มุกตา" เผยแพร่ภาพที่ "สุรพล โทณะวณิก" นักแต่งเพลงชื่อดัง ได้เขียนข้อความอาลัย ถึง สวลี ผกาพันธุ์ อย่างสุดซึ้ง โดยมีข้อความว่า "แด่คุณเชอรี่ สวลี ผกาพันธุ์ ด้วยความอาลัยอย่างสุดซึ้ง จากคนที่เคยรักข้างเดียวเสมอมา ตราบกระทั่งวันนี้"
จากนั้น ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ก "หนุ่มเมืองจันท์" ได้ออกมาโพสต์ข้อความเล่าเรื่องราวสุดโรแมนติกของ "สุรพล โทณะวณิก" ที่มีต่อ "สวลี ผกาพันธุ์" ระบุว่า "ในโลกแห่งความเป็นจริง เธออาจเป็นหญิงของใครไม่หวั่น แต่ในโลกแห่งความฝัน เธอเป็นของฉัน ทั้งกายและใจ" (เนื้อเพลง "ในโลกแห่งความฝัน" ผลงาน "สุรพล โทณะวณิก")
"สุรพล" เป็นเด็กกำพร้า เคยช่วยแม่ค้าขายน้ำอยู่หน้าโรงเรียนมหาพฤฒาราม เขาไปจีบนักเรียนหญิงที่ชื่อ "เชอรี่" เลยโดนให้ออก ไม่ให้ขาย มาเจอ "เชอรี่" อีกครั้ง ตอนที่เธอเป็นนางเอกละครและนักร้องชื่อดัง
ก่อนที่เขาจะแต่งเพลงให้ "เชอรี่" หรือ "สวลี ผกาพันธ์" ร้องหลายเพลง หนึ่งในเพลงนั้นคือเพลง "ใครหนอ" ที่ทำให้เธอได้รับรางวัลนักร้องแผ่นเสียงทองคำ
"สวลี" แต่งงาน
แต่ "สุรพล" รักษาความโสดมานาน ก่อนแต่งงานกับ "นงลักษณ์ โรจนพรรณ" ไม่นานชีวิตคู่ของเขาก็จบลง มีคนเคยเขียนถึงสาเหตุการหย่าร้างครั้งนี้
"คุณนงลักษณ์" แต่งงานกับ "คุณสุรพล โทณวนิก" ศิลปินแห่งชาติเพราะเธอหลงใหลในความงามของบทเพลงที่ คุณสุรพล แต่ง
แต่ "คุณสุรพล" เอง มิได้มีที่ว่างใดๆในหัวใจเหลืออยู่ ด้วยเธอมอบความรักทั้งหมดให้กับ "คุณสวลี ผกาพันธ์" นักร้องที่เป็นที่ชื่นชอบที่สุด แม้ว่าเธอจะแต่งงานและมีครอบครัวที่สมบูรณ์มานานแล้ว เมื่อเป็นดังนี้ชีวิตสมรสจึงดำเนินไประยะหนึ่ง แล้วก็สิ้นสุดลง
และนี่คือ คำไว้อาลัยของเขาในวันที่ "เชอรี่" ปราศจากลมหายใจ
"สุรพล โทณะวณิก" เคยเขียน ถึง "สวลี ผกาพันธ์" และ เพลงใครหนอ เอาไว้ใน "ขอฝากหัวใจไว้ในตัวหนังสือแด่คุณ" จากหนังสือ คอนเสิร์ตวันดวลเพลง ชาลี อินทรวิจิตร สุรพล โทณะวณิก ว่า “...ผมเป็นตัวประกอบ เป็นเด็กลูกมือคนเขียนฉาก เป็นเด็กยกฉาก เด็กขายสูจิบัตร
เธอเป็นนางเอกละคร เพิ่งสาวสวยแรกผลิ เป็นนักร้องที่ร้องเสียงดี เทคนิคการร้องดี มีชีวิตชีวา มีคุณภาพ ผู้ชมและผู้ร่วมงานต่างชอบ เธอโด่งดังมากยามนั้น เธอมีเมตตา เคยแบ่งข้าวเย็นที่นายแม่เธอ ทำมาส่งเธอตอนการแสดงรอบบ่ายจบ เป็นอาหารมื้อเย็นของเธอ ยามเธอต้องอยู่หลังโรง เพื่อแสดงรอบค่ำ, เธอแบ่งข้าวให้ผมกิน เป็นเวลาที่ผมอดอยากหิวจัด ผมสำนึกบุญคุณของเธอไม่มีวันลืม
ต่อมาเธอเป็นนักร้องโด่งดัง แผ่นเสียงที่เธอร้องบันทึกเสียงขายดี เพราะความสามารถของเธอ ผมเลยมุมานะที่จะเป็นนักแต่งเพลง และอยากให้เธอร้องเพลงของผม
เธอร้องเพลงให้ผมแล้ว เธอมีส่วนอย่างมาก ทำให้ผมโด่งดัง เพราะเธอร้องเพลงให้ผมมากกว่าใคร และทุกครั้งที่ร้องเพลงให้ผม ทราบว่าผมถึงแม้จะเป็นนักแต่งเพลงแล้ว ยังเร่ร่อนไม่มีบ้านอยู่ เวลาไม่มีงานทำ ยังอดๆ อยากๆ ...เธอยกค่าร้องให้ผม.”
ทั้งนี้มีกำหนดสวดพระอภิธรรมศพ "สวลี ผกาพันธุ์" ระหว่างวันที่ 3-8 พ.ค. เวลา 19.00 น. ณ ศาลาพระครูประจักษ์ วัดธาตุทอง กรุงเทพฯ จากนั้นจะเก็บศพไว้บำเพ็ญกุศล 100 วัน และ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) จะดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพต่อไป
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก : หนุ่มเมืองจันท์