svasdssvasds

Zipmex แถลงการณ์ล่าสุด ย้ำ ZipUp+ ก.ล.ต. รู้เห็น บริษัทไม่ได้ล้มละลาย

Zipmex แถลงการณ์ล่าสุด ย้ำ ZipUp+ ก.ล.ต. รู้เห็น บริษัทไม่ได้ล้มละลาย

สืบเนื่องจากสถานการณ์ของ Zipmex ที่มีผู้เสียหายจากผลิตภัณฑ์ ZipUp+ และข้อโต้แย้งจากทั้งสำนักงาน ก.ล.ต. ทำให้ทางซิปเม็กซ์ต้องการแถลงอัปเดตล่าสุด 5 ประเด็นเพื่อคลี่คลายข้อสงสัยและความกังวลของลูกค้าในประเทศไทย

ประเด็นที่ 1 ที่มาของปัญหาและไทม์ไลน์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากสถานการณ์ผันผวนของตลาดคริปโทเคอร์เรนซีเป็น ‘ขาลง’ มีหลากหลายบริษัทยื่นล้มละลายและมีปัญหาสภาพคล่องเกิดขึ้น จนมาส่งผลกระทบต่อซิปเม็กซ์ในที่สุด

ไทม์ไลน์ของ Celsius และ Zipmex 

ทาง Zipmex Asia (สิงค์โปร์) ได้นำเงินไปฝากไว้กับ เซลเซียส (Celsius) 

จนในวันที่ 13 มิถุนายน ทาง Celsius ประกาศว่าบริษัทเผชิญปัญหาสภาพคล่อง และ 14 กรกฎาคม ได้ยื่นล้มละลาย 

ทาง Zipmex Asia (สิงค์โปร์) ได้เห็นถึงสถานการณ์และประชุมทันทีและได้ข้อยุติว่าจะทำการรับผิดชอบด้วยงบของบริษัทเอง ในจำนวนเงินประมาณ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (181,585,000 บาท)

ไทม์ไลน์ของ Babel Finance และ Zipmex 

ทางบริษัทได้ตรวจสอบกับคู่ค้าที่นำเงินไปฝากคือ Babel Finance หลังจากเกิดเหตุการณ์กับ Celsius ซึ่งมีเงินฝากไว้ราว 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 1,743,360,000 บาท 

ซึ่งขณะนี้ Babel Finance ยังคงดำเนินกิจการอยู่ในปัจจุบัน และได้มีการปรับโครงสร้างกับทาง Zipmex Asia และหารือกันโดยตลอด 

ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ได้เน้นย้ำว่า “ขณะนี้ Babel Finance ยังไม่ได้ยื่นล้มละลาย และยังไม่มีปัญหาใดๆ”

ทาง Zipmex ทราบดีว่า 17 มิถุนายน Babel Finance มีการระงับการถอน แต่ได้มีการหารือกันในกรณีนี้ เพื่อความโปร่งใส ทาง Zipmex ชี้แจงว่าได้มีการถอนเงิน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มาจากทาง Babel Finance ได้สำเร็จ 

ในวันที่ 20 มิถุนายน การประชุมได้มีสถานการณ์ไปในเชิงลบ มีการพูดถึงคำว่า “ล้มละลาย” “ประสบปัญหาสภาพคล่องเป็นอย่างสูง” ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยังไม่สามารถคืนสินทรัพย์ให้กับบริษัท Zipmex ได้ 

 และภายในวันนั้นเวลา 16.30 น. ทางบริษัทจึงตัดสินใจแจ้งกับสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อหยุดให้บริการ ZipUp+ ชั่วคราว


 

ข้อสงสัยที่ทำไม? Zipmex ต้องนำเงินไปฝากไว้กับ Celsius และ Babel Finance 

ทาง Zipmex Asia แจ้งว่ามีการตรวจสอบแล้วพบว่ามีผลประกอบการที่ดีของในช่วงก่อนหน้านี้ ในส่วนของสินทรัพย์ทั้งหมดที่ Zipmex นำไปฝากนั้นมีเพียง 5% ของสินทรัพย์ทั้งหมดของ Babel Finance 

ซึ่งสินทรัพย์ทั้งหมดของทั้งสองบริษัทมีดังนี้

Celsius Network มีการระดมทุน 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2564 ที่ผ่านมา ได้รับเงินลงทุนสูงถึง 864 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Babel Finance มีการระดมทุนกว่า 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อพฤษภาคม ปี 2565 ทำให้มีมูลค่าสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ


ประเด็นที่ 2 ทาง Zipmex “ไม่ได้ล้มละลาย” เพียงแค่ “ยื่นขอพักชำระหนี้” 

ทางทนายความของทาง Zipmex ได้อธิบายการยื่นขอพักชำระหนี้ของกลุ่มบริษัท Zipmex ไว้ว่าเป็นการปฎิบัติตามคำแนะนำของทนายความ เพื่อ "ชะลอและลดผลกระทบในระยะสั้น" ให้บริษัทมีเวลาในการจัดการปัญหาดังกล่าวและยังเป็นส่วนช่วยในการระดมทุน

ซึ่งการยื่นต่อศาลสิงค์โปร์ในครั้งนี้ “ไม่ได้มีผลกระทบต่อบริษัท ซิปเม็กซ์ ประเทศไทย” เพียงแต่ทางบริษัทชี้แจงเพื่อให้ทราบเท่านั้นเพื่อความโปร่งใส 

โดยเจ้าหนี้ที่เกี่ยวข้องจะมีสิทธิ์ยื่นคำแถลงการณ์ภายในวันที่ 5 สิงหาคม โดยซิปเม็กซ์ สิงค์โปร์ จะนำเอกสารส่งภายในวันที่ 12 สิงหาคม และพิจารณาในวันที่ 15 สิงหาคมนี้

ประเด็นที่ 3 Zipmex “แก้ไขปัญหาถึงไหนแล้ว?”

ล่าสุดมีการระดมทุนเข้ามาในบริษัทเพื่อไม่ต้องรอ Babel Finance เป็นเวลานาน ขณะนี้มีการหารือร่วมกับนักลงทุนหลายรายและขณะนี้มีการลงนามหรือ MOU ขณะนี้ได้มีคนสนใจทั้งหมด 2 ราย ซึ่งยังคงต้องใช้เวลาในการพิจารณาและตัดสินใจ โดย ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ได้แจ้งไว้ว่ามีการมัดจำเงินบางส่วนเรียบร้อยแล้ว และยังไม่สามารถเปิดเผยบุคคลแจ้งได้เพียงว่าเป็น “นิติบุคคล” 

ยังมีการลงทุนเพิ่มใน ZMT ซึ่งชี้ให้เห็นความเชื่อมั่นของนักลงทุนในเหรียญ ZMT และ Ecosystem ของบริษัท และยังทำตามแผนที่วางไว้

ประเด็นที่ 4 ชี้แจงเรื่องสำนักงาน ก.ล.ต. 

ทาง Zipmex ได้รับทราบและได้ติดตาม Live ทุกช่องทาง จึงได้ขอชี้แจงว่าทางบริษัทซิปเม็กซ์ “ได้ทำตามกติกาแล้วข้อบังคับอย่างเคร่งครัด” และเรามีลายลักษณ์อักษรและหลักฐานในทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำ ดร.เอกลาภได้นำเอกสารมาแสดงให้สื่อมวลชนเห็นว่าทาง Zipmex Thailand ได้มีการติดต่อและมีหลักฐานจริง 

ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ได้เน้นย้ำว่า “ทาง Zipmex Thailand เป็นบริษัทที่ไม่เคยถูกปรับจากหน่วยงานใดๆในโลกนี้เลย และโปร่งใสมาโดยตลอด”

ประเด็นที่ 5 สองอาทิตย์ที่ผ่านมา Zipmex ทำอะไรมาบ้าง?

ทางบริษัท Zipmex ได้มีการทำงานอย่างหนักหน่วง ปัจจุบันยังสามารถถอนเหรียญดิจิทัลได้มากกว่าก่อนเกิดปัญหาเสียอีก และมีการทำ Hotline หรือสายด่วนให้แจ้งปัญหาเรียบร้อยแล้ว 

กำลังทยอยเปิดให้บริการ Z Wallet โดยจะเป็นการเครดิต Trade Wallet เริ่มจาก 5 เหรียญ ได้แก่ ADA,SOL,XRP,BTC และ ETH ภายในเวลาสองอาทิตย์นี้ และสามารถติดตามได้ภายในเย็นวันนี้ 

ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ได้พูดถึงแนวคิดเกี่ยวกับนักลงทุนที่เข้ามาระดมทุนกับ Zipmex เนื่องจากขณะนี้เป็นตลาดขาลง หากอีก 3 ปี เป็นตลาดขาขึ้น ทางบริษัทมีทีมงานมืออาชีพที่รู้จักตลาดคริปโทเคอร์เรนซีดี รวมถึงขณะนี้การจดทะเบียนธุรกิจประเภทนี้ก็ยากขึ้น ทำให้มูลค่าของบริษัท Zipmex ยังคงมีมากและน่าลงทุนอยู่ 

สื่อมวลชนได้ ถาม-ตอบ คำถามเกี่ยวกับ ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ดังนี้

เงิน 5 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐที่มาจากการรับผิดชอบของ Zipmex Singapore จะมีบรรเทาความเสียหายและลงประกาศเป็นลายลักษณ์อักษรภายในตอนเย็นวันนี้ ว่าจะมีรายละเอียดการคืนเงินเป็นเหรียญต่างๆในสัดส่วนเท่าใด โดยจะเริ่มจาก ADA,SOL,XRP ได้ทั้งหมด 100% แต่ BTC และ ETH จะถูกแบ่งตามสัดส่วนที่เหมาะสม 

ซึ่งใน 5 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐจะไม่ได้กลับมาในประเทศไทยทั้งหมด ซึ่งลูกค้าไทยมีสัดส่วนประมาณ 70% ของ ZipUp+ ทั้งหมด

Zipmex ต้องการที่จะระดมอย่างน้อย 2 พันล้านบาท เพื่อจะนำมาครอบคลุมเงินที่เสียหาย 

กรณีของการยินยอมใช้บริการ ZipUp+  ดร.เอกลาภ ยิ้มวิไล ได้พูดถึงปฎิเสธถึงการชักชวนให้ใช้บริการ ZipUp+ โดยได้เล่าถึงไทม์ไลน์ดังนี้

กรณีของ ZipUp และ ZipUp+ ที่หลายคนสับสน

ZipUp คือบริการของ Zipmex Thailand เอง ที่มีการจ่ายโบนัสหรือดอกเบี้ยให้กับลูกค้า ซึ่งโบนัสและดอกเบี้ยทาง Zipmex Asia เป็นคนจ่ายให้

ZipUp+ คือบริการของ Zipmex Asia ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงจากผลิตภัณฑ์ ZipUp โดยลูกค้าได้กดยินยอมในข้อตกลงที่จะเปลี่ยนการฝากเงินไปยังประเทศสิงค์โปร์ ซึ่งในกรณีนี้ Zipmex Asia นำเงินไปฝากไว้กับ Celsius และ Babel Finance 

สุดท้ายของการแถลงการณ์ทางบริษัทยังได้ย้ำถึงความโปร่งใสและจะอัปเดตข้อมูลทั้งกับสำนักงานก.ล.ต. สื่อมวลชน และลูกค้าในทุกช่องทาง ซึ่งผู้เสียหายสามารถติดตามข่าวสารการชดเชยเหรียญดิจิทัลได้ในเย็นนี้ว่าจะมีการ AirDrop คืนเงินเป็นเหรียญใน Z Wallet สัดส่วนและภายในวันไหนบ้าง








 

related