วัยรุ่นทั้งหลาย สารภาพมาว่า ใครพิมพ์ "สระแอ" ด้วย "สระเอ" 2 ตัว บ้าง ? ถ้าใช้สระเอ วันนี้จะชวนมาไขข้อสงสัยว่า ทำไมไม่ควรทำแบบนั้น ในโลกของเทคโนโลยี
ในยุคปัจจุบันที่ทุกคนใช้งานโลกดิจิทัลการพิมพ์ตัวอักษรหรือพยัญชนะต่าง ๆ บนแ้นพิมพ์ทั้งคอมพิวเตอร์และมือถือกลายเป็นเรื่องปกติของทุกคน แต่มี "สระ" ตัวหนึ่งในภาษาไทย ที่ผู้คนต่างมีปัญหากันและถกเถียงกันอย่างดุเดือดว่า ทำไมต้องมี "สระแอ"
สระแอเป็นสระเสียงยาว ถ้าดูตามรูปลักษณ์ "สระแอ" เป็นสระที่ประกอบด้วย "สระเอ" 2 ตัว มันเลยทำให้คนยุคใหม่ พิมพ์สระแอ ด้วยสระเอ 2 ตัว ในทางการอ่านการพิมพ์แบบนี้มันก็ทำให้อ่านรู้เรื่องเหมือนกัน แต่ในทางการทำงานมันกลับไม่สมควรทำอย่างยิ่ง
อ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง
ทำไมถึงไม่ควรใช้สระเอ 2 ครั้ง แทน สระแอ ?
ต้องย้อนกลับไปที่รากฐานการพิมพ์สมัยยุคพิมพ์ดีด การพิมพ์ สระเอ 2 ตัว จะทำให้ช่องไฟ(ช่องว่าระหว่างตัวอักษร) ห่างกว่าปกติแล้วทำให้ดูไม่สวยงาม จึงมีการคิดค้นปุ่ม สระแอ ขึ้น ทำให้รูปลักษณ์ของคำดูสวยงามมากขึ้น ซึ่งลักษณะนี้ก็ยังคงเป็นอยู่ในโลกดิจิทัล
ซึ่งการแปลงภาษาไทยเป็นภาษาคอมพิวเตอร์ แต่ละตัวอักษรจะถูกแปลงเป็นภาษาคอมฯ เพื่อให้คอมรู้ว่าเรากำลังพิมพ์ตัวอะไรอยู่และต่อยอดไปสู่การเรียนรู้ว่าคนกำลังพิมพ์คำว่าอะไรอยู่
ประเด็นคือ สระเอ ก็มีรหัสประจำตัวในภาษาคอมพิวเตอร์ ต่างจาก สระแอ ดังนั้นนอกจากช่องไฟแล้ว มันยังทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพด้วย เพราะ คอมพิวเตอร์ก็จะคิดว่า สระเอตัวแรกพิมพ์ผิดและไม่อ่านเป็นคำ เช่น แฟน ≠ เเฟน
ไม่สวยแล้วยังไง อ่านได้เหมือนกัน ?
ถ้าเราสื่อสารปกติการใช้สระเอ 2 ตัว คงไม่มีใครทัก แต่ในโลกการทำงานมันแทบจะทำให้ชีวิตเราเปลี่ยนได้ง่าย ๆ เลย SPRiNG จะแบ่งให้เห็นภาพชัด ๆ เป็น 2 เรื่องดังนี้
ถามว่าทำแล้วมันได้ไหม ก็ได้ แต่มีผลตามมา ดังนั้นเราแค่เลื่อนนิ้วไปอีกนิด กดสระแอ เพียงครั้งเดียว ดีกว่า สระเอ 2 ครั้ง ก็จะทำให้เราสามารถวางรากฐานพฤติกรรมที่ดีในอนาคตได้