โดรนส่งของ Amazon จะสามารถใช้ได้จริงไหม ?

Digital life วันนี้พาไปอัพเดท ธุรกิจเดลิเวอรี่แห่งอนาคต เพราะเค้าตั้งเป้าว่า จะสามารถส่งของถึงมือลูกค้าได้ภายใน 30 นาที แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยหละ 

ก่อนหน้านี้เราเคยได้ยินเรื่องของการส่งของทางโดรนจาก Amazon ที่เขาตั้งใจให้เป็นบริการทางเลือกที่รวดเร็ว และนำเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนมาใช้เพื่อส่งของ แต่ดูเหมือนว่าความพยายามนี้จะยังไม่น่าพอใจเท่าที่ควร  เพราะทาง Amazon ประกาศเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี 2013 แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เป็นที่นิยม

เพราะการทดสอบที่ผ่านมามีอุปสรรคเยอะเกินกว่าจะได้เสียงชื่นชม อย่างในช่วง 4 เดือน ของการทดสอบ เกิดอุบัติเหตุขึ้นไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ทั้งเรื่องของความสูงใยการบิน บินอยู่ดีดีใบพัดหลุด  หรือการลงจอดที่รุนแรงทำให้ของเสียหาย และครั้งที่ถูกตั้งคำภามมากที่สุดก็คงเป็นครั้งที่ โดรนของ Amazon พลิกคว่ำ ไม่สามารถควบคุมโดรนได้ ทำให้พุ่งตกลงมาอย่างเร็วจากความสูง 160 ฟุต ส่งผลให้เกิดไฟไหม้ กินพื้นที่ 25 เอเคอร์ ทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงท้องถิ่นต้องมาระงับเหตุดับไฟ

ย้อนกลับไปในปี 2559 ที่ได้ทำการส่งของเป็นครั้งแรกในเมือง แคมบริดจ์  สินค้าดังกล่าวก็คือเครื่องเล่นเกมและสตรีมมิง Amazon Fire TV กับถุงป๊อปคอร์น โดยใช้เวลาเพียง 13 นาทีเท่านั้น นับตั้งแต่วินาทีที่กดสั่ง จนลูกค้าได้รับสินค้า สร้างความฮือฮา และทุกคนต่างหวังว่าขนส่งชนิดนี้ จะเป็นอนาคตที่สดใน

และในปี. 2020 ทาง Amazon ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA) ให้เริ่มใช้โดรนPrime Air บินส่งสินค้าได้ Amazon ถือเป็นบริษัทเอกชน รายที่ 3 ในสหรัฐฯ ที่ได้รับการอนุญาตดังกล่าว ต่อจาก UPS และ Wing บริษัทลูกของ Alphabet โดยจะมีสิทธิพิเศษเพื่อ “ส่งสินค้าให้กับผู้ใช้บริการอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ” 

แต่พอถึงการใช้งานจริงกลับไม่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าสักเท่าไหร่
เพราะมีทั้งเกิดอุบัติเหตุกลางทาง บางครั้งนำส่งถึงแต่ของก็ได้รับความเสียหาย 

แถมยังมีอดีตพนักงานของบริษัท Amazon ออกมาแฉอีกด้วยว่า ทางบริษัท ให้ความสำคัญและเร่งรีบที่จ้เปิดตัว หรือ ใช้งาน โดรน มากกว่าการทดสอบให้มีความปลอดภัยเสียอีก

แล้วแบบนี้ถ้าบ้านเรามีคุณจะสั่งของให้โดรนมาส่งไหม หรือรอขนส่งแบบเดิมไหวไม่รีบ
เพราะเทคโนโลยีไม่ใช่แค่เทรนด์แต่เป็นเรื่องที่อยู่ในชีวิตเรา มาอัพเดทกันนะคะ