Meta AI ทดสอบระบบ ช่วยคิดคอมเมนต์ให้ บนแพลตฟอร์ม Instagram
Meta ยังคงผสาน AI เข้ากับแพลตฟอร์ม ล่าสุดทดสอบฟีเจอร์ใหม่บน Instagram ให้ AI ช่วยเขียนความคิดเห็น หวังเพิ่มปฏิสัมพันธ์ แต่อาจถูกตั้งคำถามเรื่องความจริงใจ
SHORT CUT
- Meta ทดสอบฟีเจอร์ใหม่บน Instagram ให้ Meta AI ช่วยผู้ใช้เขียนความคิดเห็นบนโพสต์ โดย AI จะวิเคราะห์รูปภาพและเสนอคำแนะนำข้อความ ผู้ใช้สามารถเลือกใช้หรือขอคำแนะนำใหม่ได้
- Meta อ้างว่าฟีเจอร์นี้มีเป้าหมายเพื่อให้ประสบการณ์ผู้ใช้ "สนุกและมีประโยชน์มากขึ้น" แต่ก็มีประเด็นน่ากังวลเกี่ยวกับความจริงใจ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้บนแพลตฟอร์ม
- การทดสอบนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามอย่างต่อเนื่องของ Meta ในการผสาน AI เข้ากับแพลตฟอร์ม และสะท้อนให้เห็นถึงทิศทางที่ AI อาจมีบทบาทมากขึ้นในอนาคตของโซเชียลมีเดีย
Meta ยังคงผสาน AI เข้ากับแพลตฟอร์ม ล่าสุดทดสอบฟีเจอร์ใหม่บน Instagram ให้ AI ช่วยเขียนความคิดเห็น หวังเพิ่มปฏิสัมพันธ์ แต่อาจถูกตั้งคำถามเรื่องความจริงใจ
Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาปรับใช้อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่บน Instagram ที่อาจส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ นั่นคือ ความสามารถในการใช้ AI ช่วยเขียนความคิดเห็นหรือคิดคอมเมนต์นั่นเอง
Jonah Manzano ผู้ใช้งาน X ซึ่งมีประวัติในการทดสอบฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้เปิดเผยข้อความแจ้ง "เขียนด้วย Meta AI" บน Instagram ซึ่งเป็นช่องทางให้ขอคำแนะนำจาก AI ในการเขียนความคิดเห็น
ผู้ใช้ที่เข้าถึงฟีเจอร์นี้จะเห็นไอคอนรูปดินสอ เมื่อแตะ Meta AI จะวิเคราะห์ภาพ และเสนอคำแนะนำ 3 แบบ ผู้ใช้สามารถกดรีเฟรชเพื่อรับคำแนะนำชุดใหม่ได้
Meta ยืนยันว่าบริษัทกำลังทดสอบฟีเจอร์ Meta AI ในหลายส่วนของแอป รวมถึง ความคิดเห็น ฟีด กลุ่ม และการค้นหา โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประสบการณ์ผู้ใช้ "สนุกและมีประโยชน์มากขึ้น" แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดความพร้อมใช้งานในวงกว้าง
การทดสอบ "ความคิดเห็น AI" สะท้อนความพยายามของ Meta ในการนำ AI มาเพิ่มประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม อาจเผชิญเสียงวิจารณ์จากผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความจริงใจ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเห็นความคิดเห็นจาก "มนุษย์"
การทดลองของ Meta กับ AI ไม่ใช่ครั้งแรก และจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย การเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ จะทำให้เข้าใจทิศทางของโซเชียลมีเดียในอนาคต ที่ AI อาจมีบทบาทมากขึ้น
ที่มา : TechCrunch
