svasdssvasds

เปิดเหตุผล ทำไมหลายสายการบิน ห้าม ใช้ Power Bank พาวเวอร์แบงค์ บนเครื่องบิน

เปิดเหตุผล ทำไมหลายสายการบิน ห้าม ใช้ Power Bank พาวเวอร์แบงค์ บนเครื่องบิน

เปิดเหตุผล ทำไมหลายสายการบิน ห้าม ใช้ Power Bank พาวเวอร์แบงค์ บนเครื่องบิน หลังจากที่ล่าสุด การบินไทย ประกาศไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารใช้ หรือชาร์จ Power Bank บนเครื่องบิน ตลอดระยะเวลาการเดินทาง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2025 เป็นต้นไป

SHORT CUT

  • สายการบินหลายแห่งเริ่มห้ามใช้พาวเวอร์แบงค์บนเครื่องบิน 
  • รวมถึงการบินไทยที่จะเริ่มห้ามตั้งแต่ 15 มีนาคม 2025 เนื่องจากความเสี่ยงเกิดความร้อนสูง ไฟไหม้หรือระเบิดจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน
  • โดยปัจจัยเสี่ยงรวมถึงการเปลี่ยนแปลงความกดอากาศ การชาร์จที่ไม่เสถียร และการเก็บผิดวิธี

เปิดเหตุผล ทำไมหลายสายการบิน ห้าม ใช้ Power Bank พาวเวอร์แบงค์ บนเครื่องบิน หลังจากที่ล่าสุด การบินไทย ประกาศไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารใช้ หรือชาร์จ Power Bank บนเครื่องบิน ตลอดระยะเวลาการเดินทาง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2025 เป็นต้นไป

พาวเวอร์แบงก์ หรือ แบตเตอรี่สำรอง  ถือได้ว่า เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่หลายคนเอาไว้พกพาเวลาเดินทางไกล  เอาไว้ใช้ ในการชาร์จไฟให้กับโทรศัพท์มือถือตัวเอง  เปรียบเป็นว่าเป็นอวัยวะที่ 33 เคียงคู่กับมือถือ ของผู้คนในยุคสมัยปี 2025 ก็คงไม่ผิดจากความจริงนัก 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด  Power Bank พาวเวอร์แบงค์ เพิ่งจะถูก การบินไทย ประกาศไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารใช้ หรือชาร์จ Power Bank บนเครื่องบิน ตลอดระยะเวลาการเดินทาง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2025 เป็นต้นไป และสายการบินไทยก็ไม่ใช่ สายการบินเดียวที่มีข้อห้ามแบบนี้ด้วย 

ดังนั้น เรามาลองหาคำตอบกัน ว่าเพราะเหตุใด Power Bank พาวเวอร์แบงค์ จึงกลายเป็นวัตถุที่ต้องเฝ้าระวัง เวลาเดินทางโดยสารเครื่องบิน

เปิดเหตุผล ทำไมหลายสายการบิน ห้าม ใช้ Power Bank พาวเวอร์แบงค์ บนเครื่องบิน

 ทำไมสายการบินห้ามผู้โดยสารใช้ Power Bank บนเครื่องบิน 

พาวเวอร์แบงก์ (Power Bank) หรือ แบตเตอรี่สำรอง มีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการ เกิดความร้อนสูง (Thermal Runaway) และอาจระเบิดหรือลุกไหม้ได้ หากเกิดความเสียหายหรือถูกใช้งานผิดวิธี และพาวเวอร์แบงก์ที่ไม่ได้มาตรฐาน 

 โดยปัจจัยที่ทำให้เกิดอันตราย ได้แก่

•การเปลี่ยนแปลงของความกดอากาศ

 อุณหภูมิและความดันอากาศที่แตกต่างจากภาคพื้นดิน อาจกระตุ้นให้แบตเตอรี่เกิดปฏิกิริยาความร้อน

• การชาร์จไฟที่ไม่เสถียร

หากใช้ปลั๊กไฟบนเครื่องบินชาร์จพาวเวอร์แบงก์ อาจเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เกิดความร้อนสูง 
หากเกิด การลัดวงจร (short circuit) หรือแบตเตอรี่เสียหาย อาจทำให้เกิด การลุกไหม้ หรือระเบิดได้

• การเก็บผิดวิธี

การใส่พาวเวอร์แบงก์ไว้ในกระเป๋าที่ถูกกระแทกหรืออัดแน่น หากแบตเตอรี่ถูกกดทับหรือได้รับแรงกระแทก อาจทำให้เกิดการลัดวงจรภายในและเกิดไฟไหม้ได้

• ลดความเสี่ยงจากการชำรุดของแบตเตอรี่

หากพาวเวอร์แบงค์ที่มีปัญหาถูกชาร์จบนเครื่อง อาจเกิด การรั่วไหลของสารเคมี หรือความเสียหายที่ทำให้เกิด ไฟลุกไหม้ในห้องโดยสาร ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทุกคนบนเครื่อง

เปิดเหตุผล ทำไมหลายสายการบิน ห้าม ใช้ Power Bank พาวเวอร์แบงค์ บนเครื่องบิน
 

ทำไมสายการบินห้ามนำแบตเตอรี่สำรอง หรือ Power Bank โหลดใต้ท้องเครื่องบิน ต้องนำขึ้นเครื่องบินเท่านั้น

แบตเตอรี่สำรองหรือ Power Bank ไม่สามารถนำไปในรูปแบบสัมภาระลงทะเบียน (Checked Baggage) เพื่อโหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ เนื่องจากในระหว่างการเดินทาง แบตเตอรี่สำรอง ซึ่งมีส่วนประกอบจากลิเธียม (Lithium) อาจเกิดความร้อนสะสมจนก่อให้เกิดเพลิงไหม้หรือระเบิดได้ ซึ่งหากเกิดเพลิงลุกไหม้ในพื้นที่เก็บสัมภาระใต้ท้องเครื่องบิน จะทำให้ยากต่อการควบคุมเหตุการณ์

ทั้งนี้ หากพกพาแบตเตอรี่สำรองขึ้นในห้องโดยสาร  เมื่อเกิดเพลิงไหม้แบตเตอรี่สำรอง ลูกเรือที่ได้รับการฝึกฝนตามมาตรฐานที่กำหนด จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที 

ขนาดความจุของแบตเตอรี่ สำรอง Power Bank ที่สามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ คือ
ผู้โดยสารจะต้องนำแบตเตอรี่สำรองไปในรูปแบบสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่อง (Carry On Baggage) โดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) และสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA) ได้กำหนดขนาดความจุของแบตเตอรี่สำรองที่นำติดตัวขึ้นเครื่องได้ คือ

• หากแบตเตอรี่สำรองมีขนาดความจุ ไม่เกิน 100 Wh (Watt-Hour) หรือ 20,000 mAh (milli ampere-hour) ผู้โดยสารสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 20 ชิ้น
• หากขนาดความจุเกิน 100 Wh (Watt-Hour) หรือ 20,000 mAh แต่ไม่เกิน 160 Wh (Watt-Hour) หรือ 32,000 ผู้โดยสารสามารถนำติดตัวขึ้นเครื่องได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น
• แต่ถ้าขนาดความจุเกิน 160 Wh (Watt-Hour) หรือ 32,000 mAh จะไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ในทุกกรณี

ปัจจุบันมีเหตุการณ์แบตเตอรี่สำรองลุกไหม้บนห้องโดยสาร เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้สายการบินบางประเทศ เช่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ออกกฎระเบียบเพิ่มเติม เช่น การห้ามชาร์จแบตเตอรี่บนเครื่องบิน และไม่ให้เก็บแบตเตอรี่สำรองบนพื้นที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะ
เปิดเหตุผล ทำไมหลายสายการบิน ห้าม ใช้ Power Bank พาวเวอร์แบงค์ บนเครื่องบิน


สายการบินที่ "ห้ามใช้พาวเวอร์แบงค์บนเครื่องบินเต็มรูปแบบ"

การบินไทย (ไทย) : ไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารใช้ หรือชาร์จ Power Bank บนเครื่องบิน ตลอดระยะเวลาการเดินทาง มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2025
อีวีเอแอร์ (ไต้หวัน) : ห้ามใช้และชาร์จพาวเวอร์แบงค์ รวมถึงแบตเตอรี่ลิเธียมสำรองตลอดเที่ยวบิน มีผลตั้งแต่ 1 มีนาคม 2025
สายการบินเกาหลีใต้ (นโยบายทั่วไป) : ไม่อนุญาตให้ใช้หรือชาร์จพาวเวอร์แบงค์บนเครื่องบิน ห้ามนำแบตสำรองและบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นเครื่อง ต้องพกติดตัวหรือเก็บในที่มองเห็นได้ (เช่น ช่องเก็บของที่เบาะ) อนุญาตให้นำพาวเวอร์แบงค์ขึ้นเครื่องได้สูงสุด 5 ก้อน (ก้อนละไม่เกิน 100 วัตต์ชั่วโมง) โดยไม่ต้องขออนุญาต ส่วนแบตสำรองขนาด 100–160 วัตต์ชั่วโมง ต้องได้รับอนุญาตจากสายการบิน และต้องหุ้มฉนวนหรือเก็บในถุงป้องกัน
สตาร์ลักซ์แอร์ไลน์ (ไต้หวัน) : ห้ามใช้พาวเวอร์แบงค์บนเครื่องบินตั้งแต่เปิดตัวในปี 2018 แม้อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้ แต่ไม่สามารถใช้งานหรือชาร์จระหว่างเที่ยวบิน
ไทเกอร์แอร์ (ไต้หวัน) : ห้ามชาร์จพาวเวอร์แบงค์บนเครื่องบิน
เวอร์จินออสเตรเลีย : แบตเตอรี่สำรอง พาวเวอร์แบงค์ และกระเป๋าเงินอัจฉริยะ ต้องเก็บไว้ในสัมภาระถือขึ้นเครื่องเท่านั้น
ไรอันแอร์ (ไอร์แลนด์) : ห้ามเก็บพาวเวอร์แบงค์ไว้ในสัมภาระโหลดใต้เครื่อง เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้

สายการบินที่มีข้อจำกัด (ไม่ได้ห้ามเต็มรูปแบบ)

ไชนาแอร์ไลน์ (ไต้หวัน) : แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้แบตสำรองระหว่างเที่ยวบิน แต่ไม่ได้บังคับ ผู้โดยสารต้องเก็บพาวเวอร์แบงค์ไว้ในสัมภาระถือขึ้นเครื่อง ห้ามโหลดใต้เครื่อง
ควอนตัส (ออสเตรเลีย) : พาวเวอร์แบงค์ที่ไม่ใช่แบตเตอรี่ลิเธียมสำรอง ต้องเก็บไว้ในกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง

ที่มา : thenightly timesnownews straitstimes SPRiNG

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related