svasdssvasds

DeepSeek พลัง AI จีน ท้าชนสหรัฐฯ จุดเปลี่ยนเทคโนโลยี คาด GDP พุ่ง 20-30 จุด

DeepSeek พลัง AI จีน ท้าชนสหรัฐฯ จุดเปลี่ยนเทคโนโลยี คาด GDP พุ่ง 20-30 จุด

DeepSeek สร้างปรากฏการณ์ในวงการ AI ด้วยประสิทธิภาพที่ทัดเทียมหรือเหนือกว่าคู่แข่งระดับโลก ดันจีนขึ้นแท่นผู้นำเทคโนโลยี พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด Goldman Sachs คาดการณ์ GDP จีนพุ่ง 20-30 จุดฐานภายในปี 2030

SHORT CUT

  • DeepSeek ไม่ใช่แค่ AI ธรรมดา แต่เป็น LLM โอเพนซอร์สประสิทธิภาพสูงเทียบเท่าหรือเหนือกว่าคู่แข่งระดับโลก ทำงานบนฮาร์ดแวร์ที่ถูกกว่า ทำให้เข้าถึงง่าย และกำลังถูกนำไปใช้อย่างกว้างขวางทั้งในภาครัฐและเอกชนของจีน
  • DeepSeek ถูกมองว่าเป็น "พลังการผลิตรูปแบบใหม่" ที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจจีน Goldman Sachs คาดการณ์ว่าจะช่วยเพิ่ม GDP ของจีนได้ 20-30 จุดฐานภายในปี 2030 และเริ่มเห็นผลบวกตั้งแต่ปีหน้าจากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วย AI
  • DeepSeek กำลังเผชิญความท้าทายเรื่องผลกระทบต่อตลาดแรงงาน และการแข่งขันที่รุนแรงกับสหรัฐฯ ในด้าน AI ซึ่งอาจนำไปสู่การกีดกันทางการค้าและเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น

DeepSeek สร้างปรากฏการณ์ในวงการ AI ด้วยประสิทธิภาพที่ทัดเทียมหรือเหนือกว่าคู่แข่งระดับโลก ดันจีนขึ้นแท่นผู้นำเทคโนโลยี พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด Goldman Sachs คาดการณ์ GDP จีนพุ่ง 20-30 จุดฐานภายในปี 2030

DeepSeek คือ Large Language Model (LLM) สัญชาติจีน ที่กำลังสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่ววงการ AI โดยเฉพาะสหรัฐฯที่ต้องแข่งขันกันขึ้นเป็นเบอร์ 1 ด้านเทคโนโลยี

CREDIT : REUTERS

โมเดล R1 ของ DeepSeek ได้รับการยกย่องว่ามีความสามารถในการให้เหตุผลเทียบเท่าหรือเหนือกว่า AI ชั้นนำระดับโลกหลายตัว ที่สำคัญ DeepSeek ยังทำงานบนฮาร์ดแวร์ที่มีราคาถูกกว่าและซับซ้อนน้อยกว่า ทำให้เข้าถึงได้ง่ายและลดต้นทุนในการดำเนินงาน

CREDIT : DeepSeek

DeepSeek กับการปฏิวัติวงการ AI จีน

DeepSeek ไม่ได้เป็นเพียง AI ที่เก่งและฉลาดเท่านั้น แต่ยังเป็น AI แบบโอเพนซอร์ส (Open-source) ซึ่งหมายความว่านักพัฒนาภายนอกสามารถนำโค้ดไปปรับปรุงและพัฒนาต่อยอดได้ ทำให้เกิดการใช้งานที่หลากหลายและเร่งการพัฒนา AI ในประเทศจีนอย่างรวดเร็ว

รัฐบาลจีนให้การสนับสนุน DeepSeek อย่างเต็มที่ โดยเห็นว่าเป็น "พลังการผลิตที่มีคุณภาพรูปแบบใหม่" ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไปข้างหน้า

CREDIT : SCMP

บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของจีน เช่น Alibaba, Huawei, และ Tencent ต่างเร่งนำ DeepSeek ไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจของตน

DeepSeek ถูกนำไปใช้ในหลายภาคส่วน ตั้งแต่บริการภาครัฐ ไปจนถึงภาคเอกชน เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ บริการทางการเงิน และสมาร์ทโฟน

DeepSeek ตัวชี้วัดอนาคต 'เศรษฐกิจจีน'

Goldman Sachs คาดการณ์ว่า DeepSeek จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

ระยะสั้น : เริ่มเห็นผลเชิงบวกตั้งแต่ปีหน้า (2025) จากการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตด้วยระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ระยะยาว : ภายในปี 2030 คาดว่าจะช่วยเพิ่ม GDP ของจีนได้ 20-30 จุดฐาน (Basis points)

นอกจากนี้ การเติบโตของ DeepSeek ยังส่งผลให้หุ้นจีนปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่ออนาคตของเทคโนโลยีจีน

DeepSeek กับความท้าทายและประเด็นที่น่าจับตามอง 

แม้ DeepSeek จะมีศักยภาพสูง แต่ก็ยังมีประเด็นที่ต้องพิจารณา การนำ AI มาใช้อย่างรวดเร็วอาจทำให้เกิดการว่างงานในบางภาคส่วน ซึ่งต้องมีการบริหารจัดการอย่างรอบคอบ

การแข่งขันกับสหรัฐฯ DeepSeek อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันด้าน AI ที่เข้มข้นขึ้นระหว่างจีนและสหรัฐฯ ซึ่งอาจนำไปสู่การกีดกันทางการค้าและเทคโนโลยีที่รุนแรงขึ้น

DeepSeek พลัง AI จีน ท้าชนสหรัฐฯ จุดเปลี่ยนเทคโนโลยี คาด GDP พุ่ง 20-30 จุด

DeepSeek เป็นมากกว่าแค่ AI แต่เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน และเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแห่งอนาคต

การเปิดตัว DeepSeek ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในวงการ AI โลก และเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าจีนกำลังก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีอย่างเต็มตัว

ที่มา : CNBC

related