สกัดดาวรุ่ง! “DeepSeek” ใครดาวน์โหลดจ่อเจอโทษคุก 20 ปี ปรับ 100 ล้านดอลลาร์

ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า หากร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่านความเป็นชอบ อาจสกัดการใช้งาน DeepSeek คู่แข่งใหม่ด้าน AI ของจีนในสหรัฐฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อกำหนดหลักและผลที่ตามมาของการดาวน์โหลด DeepSeek

ภายใต้ร่างกฎหมายที่สว. ฮอว์ลีย์เสนอนั้น ระบุว่า “เทคโนโลยีหรือทรัพย์สินทางปัญญา” ที่พัฒนาในจีน จะถูกห้ามไม่ให้นำเข้ามายังสหรัฐอเมริกา ผู้ใดก็ตามที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดเหล่านี้อาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 20 ปี รวมถึง โทษปรับเป็นจำนวนเงินสูงถึง 1 ล้านดอลลาร์สำหรับบุคคลและสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สำหรับบริษัทต่าง ๆ ถือเป็นการดำเนินการทางกฎหมายต่อ AI ที่รุนแรงที่สุดนับจนถึงปัจจุบัน

ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ ยังตื่นตระหนกกับความเร็วและขนาดการเติบโตของ DeepSeek ซึ่งเขย่าตลาดหุ้นโลก สูญมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลัง DeepSeek กลายเป็นพาดหัวข่าวและดึงดูดความสนใจของผู้คนทั่วโลก ด้วยการเปิดตัวโมเดล AI ที่มีประสิทธิภาพเทียบเคียงกับ AI ของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของ สัญชาติอเมริกัน

โปรแกรมแชตบอท AI ที่มีประสิทธิภาพและใช้ต้นทุนต่ำกว่าจากแดนมังกร สร้างความกังวลให้กับรัฐบาลวอชิงตันว่าบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ อาจสูญเงินหลายพันล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากตัวเลือกของ AI ที่ใช้ต้นทุนน้อยกว่า พิสูจน์ได้ว่ามีขีดความสามารถไม่ต่างกัน และก่อให้เกิดความวิตกว่า ความก้าวหน้าของ AI ในจีน อาจเร่งการพัฒนาด้านเทคโนโลยีทางการทหารและเทคโนโลยีการสอดแนมของกองทัพจีนได้

“ฮอว์ลีย์” และเพื่อนสว.บางส่วนเสนอด้วยว่าการห้ามการส่งออกหรือนำเข้า AI ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับจีนจะช่วยปกป้องความมั่นคงของชาติ ตลอดจน ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

ด้านหนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์ รายงานว่า สว.ฮอว์ลีย์และสว.เอลิซาเบธ วอร์เรน วิพากษ์วิจารณ์การดำเนินงานที่ล่าช้าของรัฐบาลอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก่อนที่สหรัฐฯ จะบังคับใช้ข้อกำหนดใหม่ในการส่งออกชิป AI ประสิทธิภาพสูงไปยังจีน เมื่อปี 2022

ผลกระทบต่อเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และบทบาทที่ไม่แน่นอนของ Nvidia

Nvidia หนึ่งในผู้ผลิตชิป AI ชั้นนำของโลก กลายเป็นประเด็นสำคัญของการอภิปรายนี้ หลังจากหุ้นของบริษัทเผชิญการสูญเสียมูลค่าครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัทเอกชนในสหรัฐฯ หลังการเปิดตัวโมเดล AI ของ DeepSeek

“เจนเซ่น หวง” ซีอีโอของ Nvidia พบหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่รายละเอียดของการประชุมไม่ได้รับการเปิดเผยออกมามากนัก แต่สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ทั้งคู่พูดคุยถึงความสำคัญของการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเทคโนโลยีและความเป็นผู้นำด้าน AI ของสหรัฐฯ

ทำไมสหรัฐฯ กังวล DeepSeek AI จากจีน

การปรากฎตัวขึ้นอย่างกะทันหันของ DeepSeek และขีดความสามารถด้าน AI ของจีนที่ขยายตัวขึ้น ได้เพิ่มความเป็นกังวลเกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคงของชาติและการควบคุมเทคโนโลยี AI ซึ่งกลายเป็นความจำเป็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ผู้บัญญัติกฎหมายบางส่วนเสนอข้อถกเถียงว่าการปล่อยให้เครื่องมือ AI ของจีนแพร่หลายในสหรัฐอเมริกา อาจนำมาซึ่งปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยแบบเดียวกับ TikTok

แม้ว่าสภาคองเกรสจะอนุมัติกฎหมายแบนแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นดังกล่าว เมื่อปีที่แล้ว แต่การบังคับใช้ข้อจำกัดยังเผชิญความไม่แน่นอน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารต่อลมหายใจสื่อสังคมออนไลน์แชร์วิดีโอนี้ออกไปอีก

อย่างไรก็ตาม ด้วยร่างกฎหมายใหม่ของสว.ฮอว์ลีย์ที่ดูเหมือนจะจำกัดหรือกระทั่งทำให้การนำเข้าและการใช้ AI ของจีนเป็นความผิดทางอาญานั้น ความเป็นไปได้ของการใช้อำนาจเกินขอบเขตโดยฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯ ยังเป็นคำถามปลายเปิด โดยนักวิจารณ์แย้งว่าฝ่ายนิติบัญญัติมีแรงจูงใจส่วนหนึ่งจากการปกป้องตลาดสหรัฐฯ จากภัยคุกคามทางการแข่งขัน มากกว่าที่จะเป็นเรื่องของการจัดการกับข้อกังวลด้านความมั่นคงของชาติ

อย่างไรก็ตาม แรงกดดันลักษณะนี้มีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป เมื่อพิจารณาถึงระดับการปฏิวัติวงการของ  DeepSeek และสถานะที่เปราะบางของตลาดที่เกี่ยวข้องกับ AI แต่ไม่ว่าการห้ามใช้ DeepSeek อย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่นั้น บทนำของร่างกฎหมายที่เสนอโดยสว. ฮอว์ลีย์ เน้นย้ำถึงการตรวจสอบ AI ของจีนอย่างเข้มข้น และอาจเป็นตัวกำหนดนโยบายด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในอนาคตด้วย

ที่มา: Interesting Engineering

CREDIT ภาพ: Reuters