Death Clock : AI พยากรณ์วันตาย อายุขัย - คำนวณจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตต่างๆ

"Death Clock" แอปพลิเคชันใหม่ ที่มีในโหลดทั้ง App Store และ Google Play  ใช้ระบบ AI ช่วยทำนายวันที่ผู้ใช้จะเสียชีวิตได้ โดยอ้างว่าสามารถคำนวณระยะเวลาที่เหลืออยู่ของผู้ใช้งานได้อย่างแม่นยำ แอปฯ นี้พัฒนาโดย Brent Franson ผู้ก่อตั้ง Most Days เป็นบริษัทสตาร์ทอัพสหรัฐฯ ที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ประกอบการและนักลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลก 

การทำงานของแอปฯ Death Clock เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับผู้ใช้ เช่น เพศ อายุ และประวัติสุขภาพ จากนั้นจะเจาะลึกไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน อาทิ รูปแบบการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย คุณภาพการนอน ระดับความเครียด และปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่ออายุขัย

หลังจากนั้นข้อมูลทั้งหมดจะถูกนำไปประมวลผลด้วยระบบ AI ที่ได้รับการฝึกฝนจากงานวิจัยด้านอายุขัยและสุขภาพมากกว่า 1,000 ฉบับ ซึ่งรวมถึงงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส (UCLA), มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford), มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU) และ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ (Berkeley) เพื่อคำนวณและแสดงผลเป็นวันที่และอายุที่คาดว่าผู้ใช้จะเสียชีวิต โดยผู้พัฒนาระบุว่าการคำนวณนี้มีความแม่นยำสูงเนื่องจากใช้ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยที่น่าเชื่อถือ

ในแอป ฯ จะใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมของมนุษย์ แอปจะถามชีวะประวัติ เริ่มตั้งแต่การกิน การออกกำลังกาย สุขภาพจิต เชื้อชาติ พฤติกรรมการนอนหลับ และประวัติทางพันธุกรรม แล้วคำนวณออกมาเป็นอายุขัยที่คาดว่าคุณจะมีชีวิตอยู่

นอกจากทำนายและคำนวณวันตายแล้ว แอปเดธคล็อก นี้ยังมีฟีเจอร์แนะนำวิธีการยืดอายุที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยระบบจะวิเคราะห์ว่าหากผู้ใช้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในด้านต่าง ๆ จะสามารถเพิ่มอายุขัยได้มากน้อยเพียงใด ไม่ว่าจะเป็น การปรับเปลี่ยนรูปแบบการรับประทานอาหาร การเพิ่มกิจกรรมทางกาย การปรับปรุงคุณภาพการนอน การจัดการความเครียด ตลอดจนการลดหรือเลิกพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ หรือหากเปรียบเทียบง่ายๆ Death Clock จะ ทำหน้าที่เสมือนกระจกสะท้อนพฤติกรรมสุขภาพของแต่ละบุคคล

ขณะเดียวกัน ผู้ใช้หลายรายที่นำ แอปพลิเคชั่น Death Clock  มาคำนวนการวางแผนทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็น การออมเงินเพื่อวัยเกษียณ เพราะสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายตลอดช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ได้อย่างใกล้เคียง 

รวมถึงการทำประกันชีวิต-ประกันสุขภาพจะมีความแม่นยำในการเลือกวงเงินและระยะเวลาคุ้มครอง การจัดสรรทรัพย์สินและมรดกสามารถวางแผนได้ดีมากขึ้น 

ข้อควรระวัง ในการใช้  Death Clock 

• ข้อมูลส่วนบุคคล: การป้อนข้อมูลส่วนตัวเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องระมัดระวัง
• สร้างความวิตกกังวล :  แอปนี้อาจสร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตายได้
• ความแม่นยำ การทำนายเป็นเพียงการคาดการณ์ อาจไม่ตรงกับความเป็นจริงเสมอไป 
• การให้บริการในประเทศไทย  ปัจจุบันแอปนี้ยังไม่รองรับให้ดาวน์โหลดในประเทศไทย

โดย แอปพลิเคชัน Death Clock ให้บริการฟีเจอร์พื้นฐานฟรี ซึ่งรวมถึงการทำนายวันที่คาดว่าจะเสียชีวิต แต่หากผู้ใช้ต้องการเข้าถึงฟีเจอร์พิเศษ เช่น คำแนะนำเชิงลึกในการยืดอายุ การติดตามความคืบหน้า และการประเมินอายุขัยแบบต่อเนื่อง จะต้องสมัครสมาชิกแบบพรีเมียมในราคา 40 ดอลลาร์ต่อปี หรือราวๆ 1,400 บาท

ที่มา : makeuseof  deathclock.co  bloomberg