SHORT CUT
ชวนเปิดที่มา ภาพยนตร์เรื่อง 28 YEARS LATER ใช้ iPhone 15 Pro Max ถ่ายทำเรื่องนี้ และ แดนนี่ บอยล์ เองก็ มีชื่อเสียงในด้านการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อสร้างภาพยนตร์ อยู่แล้ว ตั้งแต่ 28 Days Later ซึ่งใช้กล้องดิจิทัล Canon XL-1 ไปจนถึงการเลือกใช้ iPhone 15 Pro Max ในครั้งนี้
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพยนตร์เรื่อง 28 YEARS LATER ถูกพูดถึงในวงกว้างในแวดวงของเทคโนโลยี เนื่องจากล่าสุด ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ปล่อยตัวอย่าง หรือ Official Trailer ออกมา ซึ่งความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือ การถ่ายทำ ที่ใช้ iPhone 15 Pro Max หรือ หากเราจะพูดว่า หนังเรื่องนี้ ใช้มือถือถ่าย ก็คงจะไม่ผิดจากความเป็นจริงเท่าไรนัก
ภาพยนตร์ ในแนวระทึกขวัญ 28 Years Later ซึ่งมีกำหนดฉายใน มิถุนายน ปี 2025 นั้น มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาในช่วงก่อนหน้านี้แล้วว่า ทีมผู้สร้างภาพยนตร์ว่า “ทั้งเรื่อง” ถูกถ่ายทำด้วย iPhone 15 Pro Max ซึ่งนี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายที่สำคัญของวงการภาพยนตร์และวงการเทคโนฯ ที่น่าจดจำ
จากคลิปตัวอย่าง Official Trailer ของภาพยนตร์ 28 Years Later ซึ่งมีความยาว 2.13 นาที เผยให้เห็นถึงศักยภาพของกล้อง iPhone 15 Pro Max ที่ดูผลลัพธ์ออกมาแล้ว , ความละเอียด 4K และการถ่ายในสภาพแสงน้อยได้ และอีกหนึ่งประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ภาพยนตร์เรื่องนี้ ใช้ทุนสร้าง 75 ล้านเหรียญ นั่นหมายความว่า หนังเรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทำด้วยสมาร์ตโฟนที่ทุนสูงที่สุดอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ มีการเสริม การถ่ายทำ ด้วยกล้อง Canon XL-1 ที่มีราคาสูงถึง 4,000 เหรียญ (ประมาณ 132,200 บาท) ผลิตเมื่อปี 1998 – 2001 ซึ่งเป็นกล้องวิดีโอระดับมืออาชีพและบันทึกวิดีโอลงในเทป MiniDV (วิดีโอดิจิทัล) ที่เคยนำมาใช้ในการถ่ายภาพบางส่วนของ ’28 Days Later’ มาใช้ในการถ่ายทำ ’28 Years Later’ ด้วยเช่นกัน แทนการใช้กล้องถ่ายทำภาพยนตร์ทั่วไป
โดยตัวกล้อง Canon XL-1 นั้น ถูกใช้ในการบันทึกวิดีโอดิจิทัลความละเอียดต่ำ (สูงสุดที่ 720p) เพื่อให้ความรู้สึกดิบและเยียบเย็นใกล้เคียงกับภาพของ ’28 Days Later’ และส่งต่ออารมณ์มาถึง ’28 Years Later’ ได้อย่างแนบเนียนที่สุด
สำหรับฉากที่ต้องการความละเอียดสูงนั้น จะใช้ศักยภาพขั้นสูงจาก iPhone 15 Pro Max ซึ่งมาพร้อมโหมด ProRes สำหรับบันทึกไฟล์ Log (Logarithmic) ความละเอียด 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ซึ่งเก็บข้อมูลไฮไลต์, คอนทราสต์ และแสงเงาได้มากขึ้น แต่ภาพอาจดูมีมิติน้อยกว่า จึงต้องใช้โปรแกรม Adobe Premiere หรือ DaVinci Resolve ในการตกแต่งเพิ่มเติม
สำหรับ 28 YEARS LATER ถือว่าเป็นหนึ่งในหนังภาคต่อของผู้กำกับ ดีกรีรางวัลออสการ์ อย่าง แดนนี่ บอยล์ ( Danny Boyle ) ซึ่งก่อนหน้านี้เขาเคยสร้างงาน 28 Days Later เมื่อปี 2002 และ 28 Weeks Later (2007) (แต่เรื่องนี้แดนนี่ บอยล์ ไม่ได้เป็นคนกำกับ)
สิ่งที่ เป็นภาพสะท้อนจากหนัง 28 YEARS LATER ถือว่าเป็นอีก การผลักดันนวัตกรรมในอุตสาหกรรม ภาพยนตร์ เพราะ ที่ผ่านมา Danny Boyle มีชื่อเสียงในด้านการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อสร้างภาพยนตร์อยู่แล้ว ไล่เลียงตั้งแต่ 28 Days Later ซึ่งใช้กล้องดิจิทัล Canon XL-1 ไปจนถึงการเลือกใช้ iPhone 15 Pro Max ในครั้งนี้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนสามารถสร้างผลงานในระดับมืออาชีพได้
และนอกจากนี้ การถ่ายทำด้วย iPhone 15 Pro Max ยิ่งทำให้หนังมีความน่าสนใจมากขึ้น รวมถึงการทำแคมเปญการตลาดก่อนปล่อยตัวอย่างแรก ทั้งการตัดต่อ ลำดับภาพ ซาวด์และเสียงประกอบ ซึ่งทั้งหมดชวนน่าขนลุก และ น่าจะเป็นหนังที่ได้โชว์เทคนิคหลายอย่างปี 2025