svasdssvasds

“แจ็ก หม่า” เผยเห็นอนาคตของ AI ขับเคลื่อนยักษ์ใหญ่ฟินเทค

“แจ็ก หม่า” เผยเห็นอนาคตของ AI ขับเคลื่อนยักษ์ใหญ่ฟินเทค

“แจ็ก หม่า” มหาเศรษฐีชาวจีน ผู้ร่วมก่อตั้งอาณาจักรอาลีบาบา (Alibaba) ได้แสดงความมั่นใจถึงอนาคตของบริษัทในเครือ “แอนต์ กรุ๊ป” โดยเล็งเห็นถึงโอกาสสำคัญในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

SHORT CUT

  • แจ็ก หม่า ระบุ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจาก AI ในอีก 20 ปีข้างหน้า จะเกินกว่าที่จะจินตนาการได้ และเชื่อว่า AI จะนำทุกคนไปสู่ยุคที่ยิ่งใหญ่กว่า
  • หลังจากเผชิญความท้าทาย เช่น การระงับ IPO และการปรับโครงสร้างองค์กร บริษัทสามารถปรับตัวสอดคล้องกับกฎระเบียบ และเติบโตจนมีกำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 193% ในไตรมาส 2 ปี 2023
  • “แอนต์ กรุ๊ป” กำลังขยายธุรกิจผ่านผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในด้านต่าง ๆ รวมถึง ร้านอาหาร บริการเรียกรถโดยสาร บริการด้านความบันเทิง การดูแลสุขภาพและการเงิน

 

“แจ็ก หม่า” มหาเศรษฐีชาวจีน ผู้ร่วมก่อตั้งอาณาจักรอาลีบาบา (Alibaba) ได้แสดงความมั่นใจถึงอนาคตของบริษัทในเครือ “แอนต์ กรุ๊ป” โดยเล็งเห็นถึงโอกาสสำคัญในการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI)

สำหรับ “แอนต์ กรุ๊ป” (Ant Group) บริษัทเทคโนโลยีการเงินยักษ์ใหญ่หรือฟินเทค ถือเป็นการปรากฏตัวที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก นับตั้งแต่จีนระงับแผนการยื่นเสนอขายหุ้นครั้งแรกต่อสาธารณะ (IPO) ของแอนต์ กรุ๊ป เมื่อปี 2020

“แจ็ก หม่า” มหาเศรษฐีชาวจีน ผู้ร่วมก่อตั้งอาณาจักรอาลีบาบา (Alibaba) กล่าวในงานฉลองครบรอบ 20 ปีของแอนต์ กรุ๊ปที่เขาร่วมก่อตั้งด้วย โดยระบุว่า เมื่อ 20 ปีที่แล้ว อินเทอร์เน็ตเพิ่งจะเริ่มแพร่หลาย และคนในรุ่นเดียวกันกับตัวเองโชคดีมากที่คว้าโอกาสจากอินเทอร์เน็ตเอาไว้ได้ พร้อมระบุด้วยว่า จากมุมมองของวันนี้ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากปัญญาประดิษฐ์ในอีก 20 ปีข้างหน้าจะไปไกลกว่าจินตนาการของทุกคน เนื่องจาก AI จะนำพาทุกคนไปสู่ยุคที่ยิ่งใหญ่กว่า

“AI จะเปลี่ยนทุกสิ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่า AI จะสามารถกำหนดทุกอย่างได้ เพราะแม้เทคโนโลยีจะมีความสำคัญ แต่ความจริงแท้ของการตัดสินความสำคัญหรือความล้มเหลวก็คือเราจะสามารถสร้างสิ่งที่มีคุณค่าและมีเอกลักษณ์อย่างแท้จริงในยุคที่กำลังจะมาถึงได้หรือไม่”

“แจ็ก หม่า” เผยเห็นอนาคตของ AI ขับเคลื่อนยักษ์ใหญ่ฟินเทค

แจ็ก หม่า ยังระบุด้วยว่า รู้สึกขอบคุณสำหรับประสบการณ์และความท้าทายที่แอนต์ กรุ๊ปต้องเผชิญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กำลังใจและการวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ช่วยให้แอนต์ กรุ๊ปเติบโตขึ้น

“หม่า” ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน กล่าววิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลจีนอย่างเปิดเผย ในสุนทรพจน์เกี่ยวกับการเงิน เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2020 จนนำไปสู่การถูกจีนระงับไม่ให้ “แอนต์ กรุ๊ป” นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตามมาด้วยการลุยปราบปรามและจัดระเบียบในภาคเทคโนโลยีของจีน ส่วน “หม่า” หายหน้าหายตาไปจากสาธารณะ

“แอนต์ กรุ๊ป” เป็นเจ้าของอาลีเพย์ (Alipay) แอปพลิเคชันชำระเงินผ่านมือถือที่แพร่หลายในจีน โดยในช่วงกลางปี 2020 ก่อนที่จะถูกระงับ IPO นั้น นักวิเคราะห์บางรายประเมินมูลค่าของแอปฯ นี้ว่าอยู่ที่มากกว่า 300,000 ล้านดอลลาร์ (10.1 ล้านล้านบาท) โดยบริษัทอาลีบาบาถือหุ้นในแอนต์ กรุ๊ปที่ 33%

นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัทฟินเทคแห่งนี้ก็ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรครั้งใหญ่เพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบทางการเงิน ขณะที่ “หม่า” ประกาศสละสิทธิ์การควบคุมแอนต์ กรุ๊ปในปี 2023

Photo : AFP

ในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ทางการจีนประกาศปรับแอนต์ กรุ๊ปเป็นจำนวนเงินเกือบ 1,000 ล้านดอลลาร์ (33,700 ล้านบาท) ฐานละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคและการกำกับดูแลกิจการ ซึ่งยุติการยกเครื่องกฎระเบียบที่ใช้เวลานานหลายปีของบริษัทฟินเทคแห่งนี้

“แอนต์ กรุ๊ป” เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ผ่านมาว่า จะขยับ “ซีริล ฮัน” (Cyril Han) ให้เข้ามารับช่วงต่อจาก “เอริก จิง” (Eric Jing) ในตำแหน่งประธานบริหาร มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2568

ปัจจุบัน “แอนต์ กรุ๊ป” กำลังขยายธุรกิจผ่านผลิตภัณฑ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในด้านต่าง ๆ รวมถึง ร้านอาหาร บริการเรียกรถโดยสาร บริการด้านความบันเทิง การดูแลสุขภาพและการเงิน ซึ่งกำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของชาวจีนมากขึ้น และส่งผลทำให้กำไรของบริษัทเติบโตขึ้นเกือบ 193% ในช่วงไตรมาสที่ 2 สิ้นสุดเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ที่มา

related