svasdssvasds

Facebook จะกลับมาใช้ เทคฯ การจดจำใบหน้าอีกครั้ง มุ่งปราบโฆษณาหลอกลวง

Facebook จะกลับมาใช้ เทคฯ การจดจำใบหน้าอีกครั้ง มุ่งปราบโฆษณาหลอกลวง

Facebook จ่อหวนกลับมาใช้ เทคฯ การจดจำใบหน้าอีกครั้ง มุ่งปราบปราม celeb-bait ads พวกแอบอ้างหน้าคนดังมาหากิน!

SHORT CUT

  • Meta เตรียมนำเทคโนโลยีจดจำใบหน้ากลับมาใช้อีกครั้ง หากตามแผนก็จะเป็นในช่วงธันวาคม 2024 หลังจากยกเลิกไป 3 ปี 
  • โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อปราบปรามโฆษณาหลอกลวงที่แอบอ้างใช้รูปคนดัง (celeb-bait ads)
  • ระบบจะลงทะเบียนบุคคลสาธารณะ 50,000 คน เพื่อเปรียบเทียบรูปโปรไฟล์และบล็อกโฆษณาที่ใช้รูปซ้ำ

Facebook จ่อหวนกลับมาใช้ เทคฯ การจดจำใบหน้าอีกครั้ง มุ่งปราบปราม celeb-bait ads พวกแอบอ้างหน้าคนดังมาหากิน!

เป็นเวลาราวๆ 3 ปีแล้วที่ Facebook  ปิดแท็กจดจำใบหน้าออกไปจากระบบ  อย่างไรก็ตามล่าสุดมีการเปิดเผยออกมาว่า เมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเฟซบุ๊กนั้น กำลังทดสอบระบบนี้อีกครั้ง ทั้งนี้ก็เพื่อปราบปรามการหลอกลวงในแพลตฟอร์มที่ใช้รูปภาพของคนดังมาแอบอ้างให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้นนั่นเอง

โดยทาง เมตา Meta จะเริ่มใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าเพื่อปราบปรามการหลอกลวงที่ใช้รูปภาพของคนดังมาแอบอ้างให้ดูน่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้ถือเป็นกลยุทธ์ที่เรียกว่า “โฆษณาที่ใช้รูปของคนดังเพื่อดึงดูดความสนใจ” (celeb-bait ads) นั่นเอง ซึ่ง เมตาพยายามจะป้องกันสิ่งเหล่านี้ 

ทั้งนี้ เมตา เปิดเผยว่า ในการทดสอบนั้น  มีการลงทะเบียนบุคคลสาธารณะไว้ในระบบราวๆ 50,000 คน ที่เกี่ยวข้องกับการเปรียบเทียบรูปโปรไฟล์ Facebook  ซึ่งหากมีโพสต์ต่างๆเข้ามาในระบบ หรือมีรูปภาพตรงกันนั้น Meta จะเชื่อว่าโพสต์เหล่านั้น หรือ โฆษณาเหล่านั้น เป็นการหลอกลวง ระบบจะบล็อกโฆษณา

Facebook จ่อหวนกลับมาใช้ เทคฯ การจดจำใบหน้าอีกครั้ง มุ่งปราบปราม

ขณะที่ทางฟากฝั่งคนดัง เซเลบริตี้ ก็จะได้การแจ้งเตือนว่ามีการลงทะเบียนไว้ด้วย ซึ่ง  ทางฝั่งคนดังที่เป็นที่รู้จักของประชาชนก็สามารถเลือกไม่เข้าร่วมได้หากพวกเขาไม่ต้องการเข้าร่วมฟีเจอร์นี้ก็ได้ 

ทั้งนี้ Meta วางแผนที่จะเปิดตัวการทดลองนี้ ทั่วโลกตั้งแต่เดือนธันวาคม 2024  ยกเว้นบางพื้นที่ ซึ่ง Reuters รายงานว่า พื้นที่ที่จะยังไม่ทดสอบฟีเจอร์ ได้แก่   สหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และรัฐเท็กซัสและอิลลินอยส์ของสหรัฐอเมริกา เป็นต้น 
 

ปัจจุบัน เมตา มียอดผู้ใช้งานรวมทุกแอปเกือบ 3.3 พันล้านคนต่อวัน บริษัทจึงใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อบังคับใช้กฎและแนวทางด้านคอนเทนต์หลายประการ ซึ่งช่วยให้เมตาสามารถจัดการกับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสแปมและคอนเทนต์อื่น ๆ ที่ละเมิดกฎได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

ที่มา : yahoo reuters

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related