Grab ใช้ AI พัฒนาแพลตฟอร์ม ช่วยร้านค้า เพิ่มความสะดวก ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

Grab ผู้นำแพลตฟอร์มซูเปอร์แอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศยุทธศาสตร์การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการรายย่อย และยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งาน โดยมีโครงการสำคัญ ดังนี้

Grab ช่วยสร้างสรรค์ภาพอาหารด้วย AI แกร็บเล็งเห็นความท้าทายของผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดเล็ก โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ในการสร้างภาพอาหารที่ดึงดูดใจ จึงได้พัฒนาฟีเจอร์ที่ใช้ AI สร้างภาพอาหารเสมือนจริงจากรายละเอียดเมนู เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย

ผลการทดลองเบื้องต้นพบว่า ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการมียอดขายเพิ่มขึ้น และได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากลูกค้า 

Grab ใช้ Machine Learning (ML) วิเคราะห์ข้อมูลธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม เพื่อประเมินศักยภาพของธุรกิจขนาดเล็ก และอนุมัติวงเงินสินเชื่อที่เหมาะสม ช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ

เพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้ 

• Just-in-Time Allocation ระบบจัดสรรคนขับแบบเรียลไทม์ ใช้ AI และ ML คำนวณเวลาเตรียมอาหาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่ง และลดระยะเวลารอคอย เสริมด้วย Indoor Maps เทคโนโลยีแผนที่นำทางภายในอาคาร ช่วยให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น

• Family Account ช่วยให้ผู้ใช้บริหารจัดการบริการเรียกรถให้กับสมาชิกในครอบครัว และ Food Lockers ตู้ล็อกเกอร์รับอาหาร เพิ่มความสะดวกสบายให้กับพนักงานออฟฟิศ

Grab เล็งเห็นความสำคัญของ AI ที่มีบทบาทสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ระบบยืนยันตัวตนคนขับด้วยไบโอเมตริกซ์ และระบบติดตามการเดินทางแบบเรียลไทม์

ในด้านสิ่งแวดล้อม แกร็บยังนำเทคโนโลยีมาใช้ส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อม เช่น ตัวเลือก "งดรับช้อนส้อมพลาสติก" และ "Carbon Offset"

ที่น่าสนใจไปกว่านั้น Grab ยังได้ลงทุนในโปรแกรมฝึกอบรมพนักงาน เพื่อพัฒนาทักษะการใช้ AI รวมถึง Generative AI และพัฒนาเครื่องมือภายใน เช่น "GrabGPT" ใช้ Large Language Models (LLMs) สร้างสรรค์คอนเทนต์และภาพ และ "Mystique" ช่วยในการเขียนข้อความโฆษณา

แกร็บ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของการนำ AI มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับทั้งผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และพนักงาน โดยไม่ได้จำกัดอยู่แค่การปรับปรุงบริการ แต่ยังรวมถึงการสร้างโอกาสทางธุรกิจ และการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม