svasdssvasds

อย่ากลัว AI ถ้ายังไม่ได้ลองใช้ ต้องมองว่าปัญญาประดิษฐ์เป็นผู้ช่วย

อย่ากลัว AI ถ้ายังไม่ได้ลองใช้ ต้องมองว่าปัญญาประดิษฐ์เป็นผู้ช่วย

AI คือเทคโนโลยีที่เจริญรุดหน้าไปมาก แต่ ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสแห่งความกลัว AI ขึ้นมาพร้อมๆกันด้วย ทั้งนี้ อย่าไปกลัว AI ว่าจะมาทดแทนมนุษย์เลย แต่จงกลัวคนที่ใช้ AI เป็นดีกว่า เพราะคนเหล่านี้จะแข็งแกร่ง และจะมาแย่งงานทุกคน

SHORT CUT

  • AI คือเทคโนโลยีที่เจริญรุดหน้าไปมาก   แต่ ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสแห่งความกลัว AI ขึ้นมาพร้อมๆกันด้วย 
  • ทั้งนี้ อย่าไปกลัว AI ว่าจะมาทดแทนมนุษย์เลย...แต่จงกลัวคนที่ใช้ AI เป็น จะมาแย่งงาน
  •  เพราะที่สุดแล้ว ถ้าเรามีทักษะการใช้ AI ได้ ก็จะสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในอนาคตเช่นกัน

AI คือเทคโนโลยีที่เจริญรุดหน้าไปมาก แต่ ขณะเดียวกัน ก็มีกระแสแห่งความกลัว AI ขึ้นมาพร้อมๆกันด้วย ทั้งนี้ อย่าไปกลัว AI ว่าจะมาทดแทนมนุษย์เลย แต่จงกลัวคนที่ใช้ AI เป็นดีกว่า เพราะคนเหล่านี้จะแข็งแกร่ง และจะมาแย่งงานทุกคน

หากจะพูดถึงนวัตกรรมเปลี่ยนโลก คงปฏิเสธไม่ได้ว่า คอมพิวเตอร์ น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ผู้คนยกย่อง หลักจากที่มนุษย์ได้รู้จักกับคอมพิวเตอร์ที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ  ตั้งแต่การใช้งานโดยกองทัพในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ตลอดเรื่อยมาจนถึงยุคที่คอมพิวเตอร์กลายเป็นเครื่องใช้ประจำตัวที่เราต้องพกติดตัวอยู่ตลอดในรูปแบบของโทรศัพท์มือถือ

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ กำลังจะเข้าสู่ยุค AI แล้ว , เทคโนโลยี AI กำลังจะมีบทบาทต่อชีวิตมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเวลาเคลื่อนไป AI ก็ยิ่งมีบทบาทในการเป็นผู้ช่วยของมนุษย์มากขึ้น และในอนาคตเราทุกคนคงจะใช้ AI กันอย่างกลมกลืนแนบเนียนและเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เหมือนกับที่เราใช้คอมพิวเตอร์ในทุกวันนี้  

แต่ในเวลาเดียวกัน ก็จะมีอีกหนึ่งฟากฝั่งมุมมอง ที่ อาจจะมุมมองแง่ร้าย ต่อ AI และมอง เอไออาจเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติได้

ทุกอย่างนั้นมีประโยชน์และโทษ ทุกอย่างมันมีเป็นเหรียญ 2 ด้าน เช่นเดียวกับ AI ปัญญาประดิษฐ์ 

อย่างไรก็ตาม สำหรับคนทั่วไปนั้น อย่าเพิ่งกลัว AI ไปก่อน อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้   ถ้ายังไม่ได้ลองใช้ เพราะความจริงแล้ว ข้อดีของ AI นั้นมีมากมาย เพราะมันคือ "ผู้ช่วย"  และ สามารถเปลี่ยนงานที่ยากๆ ใช้เวลาเยอะๆ ให้กลายเป็นเรื่องง่ายได้เลย  ที่จริงแล้ว AI ไม่ใช่ภัยคุกคามมนุษย์ แต่คือ AI ‘พันธมิตรที่ทรงพลัง’ ที่มาช่วยสร้างความสำเร็จ ในเรื่องต่างๆ 

อย่ากลัว AI ถ้ายังไม่ได้ลองใช้ ต้องมาว่าปัญญาประดิษฐ์เป็นผู้ช่วย มันไม่ใช่คนมายึดโลก
 

 AI ตัวช่วยในชีวิตประจำวัน 

ยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุด ก็คือ ในการใช้ชีวิตประจำวัน  ถ้าหาก เราใช้ AI มาเป็นผู้ช่วย ชีวิตของเราก็จะสะดวกสะบายขึ้น อาทิ การใช้อุปกรณ์ต่างๆในบ้าน  เช่น หลอดไฟ, โทรทัศน์ จนไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง เครื่องปรับอากาศ  เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น ต่างก็มี AI เข้ามาช่วยทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นกว่าเดิม หลายคนคงสงสัยว่าพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า จะมี AI ไปทำไม? เมื่อก่อน ไม่มีพวกเราก็ยังใช้ชีวิตกันได้สบาย ๆ

ลองมาดูเหตุผลที่เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านมีเทคโนโลยี AI คอยช่วยเหลือ ลองนึกภาพว่าเรากลับมาจากที่ทำงานในช่วงกลางคืน เราสามารถสั่ง AI ในการเปิดไฟ เช่น “OK Google เปิดไฟหน้าบ้าน” ก่อนที่เราจะเริ่มเดินเข้าไปไขกุญแจ ช่วยป้องกันเหตุร้ายจากสัตว์ร้าย หรือคนที่ไม่หวังดี เพิ่มความปลอดภัยในชีวิตขึ้นไปอีก เข้าบ้านมาแล้ว อยากนอนพักให้หายเหนื่อยสั่ง AI เปิดแอร์ด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม และเปิดโทรทัศน์ให้ AI แนะนำวิดีโอน่าสนใจในวันนี้มาให้หน่อย 

นี่เป็นเพียงการใช้ชีวิตธรรมดาในหนึ่งวันที่ได้เทคโนโลยี AI มาช่วยที่มีแค่นี้ชีวิตก็สะดวกสบายนั่นเอง

 AI กับการเป็นผู้ช่วยในการทำงาน 

สำหรับ AI นั้น ถ้าหากเรามองมันเป็นผู้ช่วยในการทำงานแล้ว มันก็จะกลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะ ให้ผู้ใช้งานประหยัดเวลาในการทำงานได้  ตัวอย่างง่าย ๆ ที่ AI เข้ามาช่วยพวกเราให้ทำงานได้ง่ายขึ้น อาทิ การทำภาพ ยิ่งยุคนี้ไม่ว่าใครก็เป็น Content Creator ใน YouTube หรือ TikTok แต่วิดีโอจะน่าสนใจ ก็อยู่ที่ภาพปกคลิปด้วย  แต่หากครีเอเตอร์ ไม่ได้มีทักษะการทำภาพให้ออกมาสวยคงไม่ถนัด เทคโนโลยี AI ก็เข้ามาอุดช่องนี้ , ขอเพียงแค่ป้อนคำสั่งให้ถูกต้องเหมาะสม  

นอกจากนี้ AI ยังสามารถทำงานที่สมัยก่อน เราอาจจะใช้เวลาทำงานนาน อาทิ การลบแบ็คกราวน์ ลบรูปต่างๆ AI ก็สามารถช่วยทุนเวลาได้

อย่ากลัว AI ถ้ายังไม่ได้ลองใช้ ต้องมาว่าปัญญาประดิษฐ์เป็นผู้ช่วย มันไม่ใช่คนมายึดโลก

ขณะที่งาน เอกสาร  Word, PowerPoint หรือ Excel ในชีวิตประจำวันเทคโนโลยี AI ก็ช่วยคนทำงานให้ได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น ตัวอย่าง หากเราต้องรีบทำสไลด์พรีเซนต์งานด่วน แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำแบบไหนให้สวยถูกใจหัวหน้า ปัญหานี้จะหมดไปเพราะ PowerPoint มี AI ที่ช่วยออกแบบสไลด์ แปลงข้อมูลของเราที่แสนธรรมดา ให้สวยขึ้นระบบจะนำเสนอตัวอย่างภาพออกมาให้เราเลือกใช้ หรือ Word โปรแกรมทำเอกสาร ก็มีเทคโนโลยี AI คอยช่วยเหลือ , แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ผู้ที่ป้อนคำสั่ง AI ก็จะต้องมีการตรวจสอบและรีเช็ก สิ่งที่ให้ AI ทำอยู่เสมอๆ  กล่าวคือ ต้อง "ตรวจงาน" AI นั่นเอง  

 AI กับการเป็นผู้ช่วยดูแลสุขภาพ 

ที่จริงแล้ว การใช้ข้อมูลสถิติ และประเด็น  AI มาเป็นผู้ช่วยดูแลสุขภาพนั้น มีมาเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว  AI คัดกรองโรค แม่นยำสูงขึ้น โดยใช้เทคโนโลยี AI  เชื่อหรือไม่ว่า โรคซึมเศร้า AI ก็สามารถช่วยเราได้ ในประเทศอังกฤษ มีบริษัทที่ชื่อว่า Mindstrong ได้พัฒนาเทคโนโลยี AI ให้ทำการวิเคราะห์ผู้คนที่มีความเสี่ยงของโรคซึมเศร้า หรือความผิดปกติเรื่องอารมณ์จากการใช้สมาร์ทโฟน และการเล่นโซเชียลมีเดีย 

 โดยการให้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้งานของเราได้อย่างแม่นยำ แล้วสรุปผลเพื่อให้จิตแพทย์ช่วยรักษาผู้ป่วย ให้กลับมามีชีวิตปกติอีกครั้งหนึ่ง บอกเลยว่าเทคโนโลยี AI ไม่เพียงทำให้ชีวิตสะดวกอย่างเดียว การได้ใช้ชีวิตที่มีความสุข AI ช่วยเราได้อย่างดี

กลุ่มคนที่ยัง มอง AI ในแง่ร้ายก็มี 

ขณะเดียวกัน , ความฉลาดล้ำของ AI นั้น  นำไปสู่ความรู้สึกไม่แน่นอน ความกลัว และความเกลียดชังต่อเทคโนโลยีของกลุ่มคนหมู่มากที่ไม่เข้าใจในเรื่องนี้ , สอดคล้องกับแนวคิดของ เจฟฟรีย์ ฮินตัน ผู้ที่สร้างรากฐานเทคโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ (AI) จนได้รับการขนานนามว่าเป็น เจ้าพ่อเอไอ ตัดสินใจลาออกจาก Google พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์แก่สื่อว่า รู้สึกเสียใจกับงานที่ตัวเองทำมาทั้งชีวิต กับการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ และเตือนว่า  AI อาจเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ โดยหากเปรียบเทียบกับเมื่อ 5 ปีที่แล้ว กับปัจจุบันนี้ จะเห็นการพัฒนาเอไออย่างรวดเร็วจนน่ากลัว ...

อย่ากลัว AI ถ้ายังไม่ได้ลองใช้ ต้องมาว่าปัญญาประดิษฐ์เป็นผู้ช่วย มันไม่ใช่คนมายึดโลก

บทสรุป AI กับชีวิตประจำวัน มีดีอะไร ?

เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทในชีวิตของพวกเรา ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้ AI ไปกับเรื่องอะไร หากใช้ในทางที่เป็นประโยชน์มันส่งผลให้ชีวิตเรามีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ใช้เวลาในการทำสิ่งต่าง ๆ ลดน้อยลง แต่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากใครที่อยากรู้ว่าเทคโนโลยี AI รอบตัวมันจะดี และสุดยอดและมีประโยชน์แค่ไหน ลองหาอุปกรณ์ใกล้ตัวเราอย่าง สมาร์ทโฟนและลองใช้งาน AI ที่ซ่อนอยู่ในแอปฯ ต่าง ๆ ในเครื่องเช่น Google Assistant หรือ Siri ตรวจเช็กและส่งข้อความสั้น, สอบถามสภาพอากาศ หรือใช้นำทางไปเที่ยว แล้วจะรู้ได้เลยว่าเทคโนโลยี AI มันช่วยให้ชีวิตของพวกเราสะดวกสบาย

อย่ากลัว AI จะมาทดแทนมนุษย์ แต่จงกลัวคนที่ใช้ AI เป็น จะมาแย่งงานคุณได้  เพราะถ้าเรามีทักษะก็จะสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต

ที่มา  etda itcreatives

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

related