svasdssvasds

Google Maps เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Speedometer วัดความเร็ว บน iOS, Apple CarPlay

Google Maps เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Speedometer วัดความเร็ว บน iOS, Apple CarPlay

Google Maps (กูเกิลแมป) เพิ่มฟีเจอร์ Speedometer ที่ช่วยให้สามารถวัดความเร็วขณะขับรถได้แล้วบน iOS และ Apple CarPlay โดยก่อนหน้านี้มีเพียง Android ที่ใช้งานได้มาตั้งแต่ปี 2019 แล้ว

SHORT CUT

  • Google Maps เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Speedometer สามารถวัดความเร็วขณะดูแผนที่นำทางได้แล้วสำหรับ iOS หรือ iPhone รวมไปถึง Apple CarPlay บนรถด้วย
  • อย่างไรก็ตามฟีเจอร์ Speedometer บน Google Maps อาจคาดเคลื่อนเล็กน้อย ยังคงต้องดูเข็มไมล์ประกอบไปด้วย
  • ฟีเจอร์ Speedometer บน Google Maps จะช่วยทำให้การเดินทางง่ายขึ้น เพราะสามารถดูความเร็วของรถได้ไปพร้อมๆกับการดูแผนที่เลย

Google Maps (กูเกิลแมป) เพิ่มฟีเจอร์ Speedometer ที่ช่วยให้สามารถวัดความเร็วขณะขับรถได้แล้วบน iOS และ Apple CarPlay โดยก่อนหน้านี้มีเพียง Android ที่ใช้งานได้มาตั้งแต่ปี 2019 แล้ว

Google Maps อัปเดตฟีเจอร์ใหม่ Speedometer ที่สามารถช่วยให้การเดินทางสามารถวัดความเร็วได้แล้วสำหรับระบบ iOS และ Apple CarPlay โดยฟีเจอร์นี้เปิดให้อุปกรณ์ Android ใช้งานมาตั้งแต่ปี 2019 แล้ว ซึ่งสำหรับใครที่ใช้ iPhone ก็สามารถตั้งค่าเปิดฟีเจอร์ใหม่ได้แล้ววันนี้

 

วิธีใช้งานฟีเจอร์วัดความเร็ว (Speedometer) บน Google Maps 

  • เปิดแอปฯ Google Maps บน iPhone 
  • แตะที่ไอคอน Account ด้านขวาบนของจอ
  • เลือก Settings > Navigation > Map display
  • แตะเลือก Speedometer ให้เป็น ON

 

ฟีเจอร์ Speedometer บน Google Maps ถือเป็นฟีเจอร์ที่จะเข้ามาช่วยในการเดินทางให้ง่ายและสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตรวจจับป้ายกำหนดความเร็วต่างๆบนท้องถนน ซึ่งก่อนหน้านี้ Google ได้เผยว่า Google Maps จะอัปเดตให้ฟีเจอร์ Speedometer สามารถเปลี่ยนสีตามความเร็วเพื่อง่ายต่อการขับรถตามกฎจำกัดความเร็วในแต่ละเส้นทาง

Google Maps เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Speedometer วัดความเร็ว บน iOS, Apple CarPlay

ในอนาคตเชื่อว่า Google Maps จะสามารถทำอะไรได้มากขึ้น เห็นจากล่าสุดได้มีการอัปเดตฟีเจอร์ค้นหาสถานีชาร์จ EV ได้ด้วย การเพิ่มฟีเจอร์ Speedometer นี้ก็ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ใช้ไอโฟนและรถที่รองรับ Apple CarPlay ที่จะสามารถดูความเร็วที่ขับอยู่ได้จาก Google Maps แล้ว แต่อย่างไรก็ตามอาจจะมีการคาดเคลื่อนเล็กน้อย ซึ่งควรดูจากเข็มไมล์รถยนต์จริงๆประกอบด้วย 

ที่มา : techcrunch

related