svasdssvasds

NASA เผยโฉม "ยานสำรวจดวงจันทร์" ยูโรปาของดาวพฤหัส อาจพบสิ่งมีชีวิต

NASA เผยโฉม "ยานสำรวจดวงจันทร์" ยูโรปาของดาวพฤหัส อาจพบสิ่งมีชีวิต

ยานสำรวจดาวเคราะห์ที่ NASA วางแผนที่จะส่งไปยังดวงจันทร์ของดาวพฤหัส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตามล่าสิ่งมีชีวิตนอกโลกของมนุษยชาติ

SHORT CUT

  • ยานสำรวจดาวเคราะห์ที่ NASA วางแผนที่จะส่งไปยังดวงจันทร์ยูโรปาของดาวพฤหัส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตามล่าสิ่งมีชีวิตนอกโลก
  • ถ้าดวงจันทร์รอบดาวเคราะห์สามารถพบสภาวะที่เอื้อชีวิตได้ โอกาสที่ซึ่งสิ่งมีชีวิตสามารถดำรงอยู่ได้ ในระบบดาวอื่นๆจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
  • ยานอวกาศคลิปเปอร์มีกำหนดจะถูกส่งขึ้นสู่อวกาศในเดือนตุลาคมมุ่งหน้าสู่ยูโรปา ซึ่งเป็นหนึ่งในดวงจันทร์หลายสิบดวงที่โคจรรอบดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุด

ยานสำรวจดาวเคราะห์ที่ NASA วางแผนที่จะส่งไปยังดวงจันทร์ของดาวพฤหัส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตามล่าสิ่งมีชีวิตนอกโลกของมนุษยชาติ

ดวงจันทร์ยูโรปา” ของดาวพฤหัส เป็นหนึ่งในดาวไม่กี่ดวงในระบบสุริยะของเรา ที่อาจซุกซ่อนสภาวะที่เหมาะสมสำหรับสิ่งมีชีวิต การวิจัยก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าใต้เปลือกน้ำแข็งนั้น มีมหาสมุทรน้ำเค็มที่มีน้ำของเหลวและมีพื้นทะเลที่เป็นหิน อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์ ไม่สามารถยืนยันได้ว่ามหาสมุทรของยูโรปานั้น มีคุณสมบัติทางเคมีที่จำเป็นสำหรับชีวิตหรือไม่ โดยเฉพาะคาร์บอน

ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดี (11 เม.ย. 67) นักวิทยาศาสตร์อวกาศของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยยานสำรวจดาวเคราะห์ที่ NASA วางแผนที่จะส่งไปยังดวงจันทร์ยูโรปาของดาวพฤหัส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตามล่าสิ่งมีชีวิตนอกโลก

ยานอวกาศคลิปเปอร์มีกำหนดจะถูกส่งขึ้นสู่อวกาศในเดือนตุลาคมมุ่งหน้าสู่ยูโรปา ซึ่งเป็นหนึ่งในดวงจันทร์หลายสิบดวงที่โคจรรอบดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ 

“คำถามพื้นฐานประการหนึ่งที่ NASA ต้องการทำความเข้าใจคือ เราอยู่ตามลำพังในจักรวาลหรือไม่” Bob Pappalardo นักวิทยาศาสตร์ในภารกิจนี้กล่าวกับผู้สื่อข่าว

“หากเราค้นหาสภาวะแวดล้อมที่เอื้อชีวิต แล้วสักวันหนึ่งพบสิ่งมีชีวิตในสถานที่เช่น ดวงจันทร์ยูโรปาจริงๆ นั่นจะบอกว่าในระบบสุริยะของเรานั้นมีสิ่งมีชีวิตอยู่อย่างน้อยสองแห่ง คือ โลกและยูโรปา

“นั่นคงจะเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับการทำความเข้าใจว่า ชีวิตทั่วไปทั่วทั้งจักรวาลเป็นอย่างไร”

ขณะนี้ยานสำรวจมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ อยู่ที่ห้องปฏิบัติการขับเคลื่อนด้วยไอพ่นของ NASA ในแคลิฟอร์เนีย โดยอยู่ใน "ห้องปลอดเชื้อ" ซึ่งเป็นพื้นที่ปิดสนิท ที่เข้าถึงได้เฉพาะผู้ที่สวมชุดคลุมตั้งแต่หัวจรดเท้าเท่านั้น เหตุผลคือเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องตรวจจับต่างๆ ปราศจากสิ่งปนเปื้อนเพื่อหลีกเลี่ยงการขนส่งจุลินทรีย์บนโลกไปยังยูโรปา

หลังจากขนส่งไปยังศูนย์อวกาศเคนเนดีในฟลอริดา คลิปเปอร์ก็พร้อมที่จะถูกส่งขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวด Space X Falcon Heavy และเริ่มการเดินทางนานกว่า 5 ปีผ่านดาวอังคารเพื่อเร่งความเร็ว

ในปี พ.ศ. 2574 ยานควรจะอยู่ในวงโคจรรอบดาวพฤหัสบดีและยูโรปา ซึ่งจะเริ่มการศึกษาอย่างละเอียดเกี่ยวกับดวงจันทร์ที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง

"เรามีเครื่องมืออย่างเช่น กล้อง สเปกโตรมิเตอร์ แมกนีโตมิเตอร์ และเรดาร์ที่สามารถ... ส่องทะลุผ่านน้ำแข็ง วัดความแจกต่างออกจากน้ำของเหลว และพื้นผิวเพื่อบอกเราว่าน้ำแข็งหนาแค่ไหน และน้ำหรือของเหลวอยู่ที่ไหน" 

นักวิทยาศาตร์ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบกับชายตัวเล็กๆ ร่างสีเขียวว่ายน้ำอยู่บนยูโรปา ที่จริงแล้ว พวกเขาไม่ได้มองหาสิ่งมีชีวิตด้วยซ้ำ เพียงแต่มองหาเงื่อนไขที่สามารถรองรับชีวิตได้

นักวิทยาศาสตร์เรียนรู้จากสภาพแวดล้อมสุดขั้วบนโลก เช่น ปล่องระบายความร้อนใต้พิภพที่ขาดแสงซึ่งอยู่ลึกใต้แผ่นน้ำแข็งขั้วโลก ว่าสิ่งมีชีวิตเล็กๆ สามารถหาได้เกือบทุกที่

และเงื่อนไขบนยูโรปา ซึ่งเกือบจะใหญ่เท่ากับดวงจันทร์ของโลก ก็สามารถเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่คล้ายกันได้ ทำให้เกิดโอกาสที่เราไม่ได้อยู่คนเดียว แม้แต่ในระบบสุริยะของเราเองก็ตาม

ถ้าดวงจันทร์รอบดาวเคราะห์ที่อยู่ห่างไกลจากดาวฤกษ์สามารถพบสภาวะที่เอื้อชีวิตได้ โอกาสที่ซึ่งสิ่งมีชีวิตสามารถดำรงอยู่ได้ ในระบบดาวอื่นๆจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก” จอร์แดน อีแวนส์ ผู้จัดการโครงการภารกิจกล่าว 

แต่ความท้าทายทางวิทยาศาสตร์ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากสนามรังสีที่ทรงพลังรอบๆ ยูโรปาอาจทำให้เครื่องมือต่างๆ สูญเสียประสิทธิภาพหรือเสียหายได้ 

ขณะเดียวกัน ระยะทางที่ค่อนข้างไกล หมายความว่าเมื่อยานคลิปเปอร์ส่งข้อมูลกลับมายังโลก สัญญาณจะใช้เวลา 45 นาทีจึงจะมาถึง Mission Control

และถึงแม้จะมีแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่ แต่การผลิตพลังงานก็ยังเป็นความท้าทายที่สำคัญ เนื่องจากแม้ทันทีที่เปิดใช้งาน แผงโซลาร์เซลล์จะจ่ายไฟได้ 23,000 วัตต์ แต่เมื่อยายออกไปถึงดาวพฤหัส ซึ่งอยู่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์มาก พวกมันก็จ่ายไฟได้เพียง 700 วัตต์เท่านั้น

นักวิทยาศาสตร์เปรียบเทียบว่า เมื่ออยู่ใกล้โลก ยานสามารถจ่ายไฟให้กับบ้านได้ 20 หลังอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่ออยู่ที่ดาวพฤหัสบดี พลังงานที่ผลิตได้เพียงพอสำหรับแค่หลอดไฟไม่กี่ดวงและเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กบางส่วนเท่านั้ย

ภารกิจดังกล่าวคาดว่าจะสิ้นสุดประมาณปี 2577 ซึ่งเป็นช่วงที่ คลิปเปอร์ มีแนวโน้มที่จะหมดอายุการใช้งาน จากนั้น ยานสำรวจจะพุ่งชนดวงจันทร์ที่ใหญ่ที่สุดของดาวพฤหัส

ที่มา : phys.org 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related