svasdssvasds

Google เอาใจคนขี้ลืม "เลิกใช้รหัสผ่าน" เปลี่ยนไปใช้ Passkey และ 2FA แทน

Google เอาใจคนขี้ลืม "เลิกใช้รหัสผ่าน"  เปลี่ยนไปใช้ Passkey และ 2FA แทน

Google ประกาศเลิกใช้รหัสผ่าน ซึ่งกูเกิลจะเปลี่ยนมาใช้ Passkey และ 2FA แทนการกรอกรหัสผ่านแบบเดิมๆ ซึ่งจะรวมการใช้งานแอปอื่นๆที่มีอยู่ในบัญชี Google บนแพลตฟอร์มหลักๆ ทั้งหมด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไ

Google ประกาศเริ่มใช้ Passkey และ 2FA แทนการกรอกรหัสผ่านแบบเดิมๆ ซึ่งจะนำใช้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้ใช้ Google จะสะดวกสบายในการลงชื่อเข้าใช้งานมากยิ่งขึ้น

รหัสผ่านเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและสะดวกกว่าสำหรับรหัสผ่านที่ Google, Apple , Microsoft และบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ ร่วมมือกับ FIDO Alliance พวกเขาสามารถแทนที่รหัสผ่านแบบดั้งเดิมและระบบการลงชื่อเข้าใช้อื่นๆ

เช่น การยืนยัน 2FA หรือ SMS ด้วย PIN ในเครื่องหรือการยืนยันตัวตนด้วย เช่น ลายนิ้วมือหรือ Face ID ข้อมูลนี้จะไม่ถูกแชร์กับ Google (หรือบุคคลที่สามอื่นๆ) และรหัสผ่านจะมีอยู่ในอุปกรณ์ของคุณเท่านั้น ซึ่งให้ความปลอดภัยและการป้องกันที่ดีกว่า เนื่องจากไม่มีรหัสผ่านที่อาจถูกขโมยในการโจมตีแบบฟิชชิง

Google เอาใจคนขี้ลืม \"เลิกใช้รหัสผ่าน\"  เปลี่ยนไปใช้ Passkey และ 2FA แทน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

เมื่อคุณเพิ่มรหัสผ่านในบัญชี Google แพลตฟอร์มจะเริ่มแจ้งเตือนเมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้หรือเมื่อตรวจพบกิจกรรมที่น่าสงสัยซึ่งต้องมีการยืนยันเพิ่มเติม รหัสผ่านสำหรับบัญชี Google จะจัดเก็บไว้ในฮาร์ดแวร์ เช่น iPhone ที่ใช้ iOS 16 และอุปกรณ์ Android ที่ใช้ Android 9 และสามารถแชร์กับอุปกรณ์อื่นๆ จาก OS โดยใช้บริการต่างๆ เช่น iCloud หรือตัวจัดการรหัสผ่าน เช่น Dashlane และ 1Password (คาดว่าจะมาถึงใน “ต้นปี 2566”)

คุณยังคงใช้อุปกรณ์ของผู้อื่นเพื่อเข้าถึงบัญชี Google ของคุณได้ชั่วคราว การเลือกตัวเลือก “ใช้รหัสผ่านจากอุปกรณ์อื่น” จะสร้างการลงชื่อเข้าใช้เพียงครั้งเดียวและจะไม่โอนรหัสผ่านไปยังฮาร์ดแวร์ใหม่ ดังที่ Google บันทึกไว้ คุณไม่ควรสร้างรหัสผ่านบนอุปกรณ์ที่ใช้ร่วมกัน เพราะใครก็ตามที่สามารถเข้าถึงและปลดล็อกอุปกรณ์นั้นจะสามารถเข้าถึงบัญชี Google ของคุณได้

ผู้ใช้สามารถยกเลิกรหัสผ่านได้ทันทีในการตั้งค่าบัญชี Google หากสงสัยว่ามีบุคคลอื่นสามารถเข้าถึงบัญชีได้ หรือหากทำอุปกรณ์เครื่องเดียวที่เก็บรหัสผ่านหาย Google กล่าวว่า ผู้ใช้ที่ลงทะเบียนใน Advanced Protection Program ซึ่งเป็นบริการฟรีที่ให้การป้องกันความปลอดภัยเพิ่มเติมจากฟิชชิ่งและแอปที่เป็นอันตราย สามารถเลือกใช้รหัสผ่านแทนคีย์ความปลอดภัยทางกายภาพตามปกติได้

ที่มา : theverge

related