svasdssvasds

"เอนก" รมว.อว. จับมือเกาหลีใต้ หวังพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ-สิ่งแวดล้อมไทย

"เอนก" รมว.อว. จับมือเกาหลีใต้ หวังพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ-สิ่งแวดล้อมไทย

เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อว. บอก ไทย กำลังจับมือ เกาหลีใต้ ร่วมมือ ด้านวิทยาศาสตร์ สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีอวกาศของไทยให้ไปไกลมากยิ่งขึ้น

เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวว่า ตนและนายลีจองโฮ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ สาธารณรัฐเกาหลี ได้ตกลงร่วมกันในการสร้างร่วมมือทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเน้นการสร้างกำลังคนสมรรถนะสูงและการสร้างงานวิจัยขั้นแนวหน้า
 

5 เรื่องที่ อว. ไทย ร่วมมือกับเกาหลีใต้

  1. งานทางด้านเทคโนโลยีอวกาศ โดยจะเน้นความร่วมมือทางด้านการพัฒนางานวิจัยขั้นแนวหน้าทางด้านเทคโนโลยีอวกาศ รวมถึงการสร้างเศรษฐกิจและระบบนิเทศทางด้านอวกาศ ร่วมกันระหว่างประเทศไทยและเกาหลีใต้
  2. การเจรจาหารือเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างไทยและเกาหลีใต้ถึงเรื่องการสร้างสถานีปล่อยยานอวกาศ (Spaceport) โดยประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางของอาเซียนในการสร้างและมีความร่วมมือร่วมกันต่อไป
  3. งานทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเกี่ยวกับทางด้านการแพทย์ ซึ่งประเทศไทยมีความโดดเด่นทางด้านการบริการการแพทย์เป็นเลิศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประเทศเกาหลีใต้มีความโดดเด่นทางด้านแพลตฟอร์มของเทคโนโลยีดิจิทัล โดยประเทศไทยและเกาหลีใต้ สามารถที่จะมีความร่วมมือกันได้เป็นอย่างดีในอนาคต
  4. งานทางด้านเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เน้นการสร้างองค์ความรู้ขั้นแนวหน้า ความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมและภาคเอกชน เพื่อร่วมมือกันสร้างและใช้ประโยชน์ จากเทคโนโลยีนิวเคลียร์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
  5. งานทางด้านการจัดการกับปัญหาภาวะเรือนกระจก เพื่อลดภาวะโลกร้อน โดยเน้นการพัฒนางานวิจัยขั้นแนวหน้า เพื่อที่จะมาแก้ไขปัญหา และในอนาคตไทยและเกาหลีใต้ ยังมีแผนในการสร้างความร่วมมือกันต่อไปในอนาคต

อ่านเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เอนก เหล่าธรรมทัศน์ มองว่า ประเทศไทยมุ่งหวังที่จะเป็นศูนย์กลางทางด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีระหว่างไทยและเกาหลีใต้ โดยไทยตอบรับถึงความพร้อมของ สาธารณรัฐเกาหลี ที่จะร่วมมือในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกัน ทั้งกับไทยและประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพัฒนาประเทศด้วยเทคโนโลยี ให้เกิดประโยชน์ที่สุด และรักษาสิ่งแวดล้อมและสภาพอากาศให้ดีขึ้นในอนาคตต่อไป

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

related