svasdssvasds

เปิดวิธีตั้งค่า มือถือ iPhone - แท็บเล็ต iPad ประหยัดแบตเตอรีใช้ได้นานขึ้น

เปิดวิธีตั้งค่า มือถือ iPhone - แท็บเล็ต iPad ประหยัดแบตเตอรีใช้ได้นานขึ้น

ชวนส่องวิธี ตั้งค่า มือถือ iPhone (ไอโฟน) และแท็บเล็ต iPad (ไอแพด) ที่จะช่วยให้แบตเตอรี่อุปกรณ์ไอทีเหล่านี้ สามารถใช้งานได้นานขึ้น และเป็นการ ช่วยเซฟชีวิตแบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้นานขึ้นด้วย

SHORT CUT

  • ชวนดู 12 วิธีตั้งค่า มือถือ iPhone และแท็บเล็ต iPad ที่จะช่วยให้แบตเตอรี่อุปกรณ์ไอทีเหล่านี้ใช้งานได้นานขึ้น อยู่ได้ตลอดทั้งวัน
  • ใครที่เคยพบเจอปัญหาแบตเตอรี่ไหล หรือ แบตฯรั่วอยู่บ่อยๆ  โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ทำการอัพเดตระบบ iOS ที่หลาย ๆ คนคงจะอัพแล้วเกิดปัญหากินแบตเตอรี หรือ แบตฯไหลเป็นน้ำอยู่บ่อยๆ สามารถ เซฟไว้ได้เลย 
  •  โดยยกตัวอย่างวิธีที่ทำให้อายุแบตยาวนานขึ้น อาทิ อย่าชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100% หรือ  ปิดการแชร์ Location Services ในแอปที่ไม่จำเป็น เป็นต้น

ชวนส่องวิธี ตั้งค่า มือถือ iPhone (ไอโฟน) และแท็บเล็ต iPad (ไอแพด) ที่จะช่วยให้แบตเตอรี่อุปกรณ์ไอทีเหล่านี้ สามารถใช้งานได้นานขึ้น และเป็นการ ช่วยเซฟชีวิตแบตเตอรี่ให้สามารถใช้งานได้นานขึ้นด้วย

สำหรับโทรศัพท์ หรือ แท็บแล็ต ของยี่ห้อ iPhone ไอโฟน ถือเป็นอุปกรณ์ไอทียอดนิยม ณ เข็มนาฬิกาเดินอยู่ ณ จุดนี้  ...แน่นอนว่าเรื่องแบตฯ ในยุคก่อนๆ เป็นเรื่องที่ สาวก Apple มีความกังวลใจ เพราะเกรงว่ามันจะใช้งานได้ไม่นานทั้งวัน , แม้ในช่วงหลัง Apple จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีในตัวแบตฯ ให้ความจุมากขึ้น และสามารถใช้งานได้ทั้งวันแล้ว แต่ประเด็นการประหยัดพลังงานของแบตฯ ก็ยังเป็นสิ่งที่ สาวกแอปเปิ้ล ควรรู้เอาไว้ 

อย่างที่ทราบๆกันว่า คนใช้มือถือ ใช้แท็บแล็ต  อาจจะเคยพบเจอปัญหาแบตเตอรี่ไหล หรือ แบตฯรั่วอยู่บ่อยๆ  โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ทำการอัพเดตระบบ iOS ที่หลาย ๆ คนคงจะอัพแล้วเกิดปัญหากินแบตเตอรี หรือ แบตฯไหลเป็นน้ำอยู่บ่อยๆ 

ขณะที่ในชีวิตจริง การใช้งานจริงๆ ของ โทรศัพท์ iPhone ไอโฟน , เราทุกคนต่างก็จำเป็นต้องใช้ มันอย่างเต็มกำลัง และ เต็มประสิทธิภาพ  ทั้งการ ถ่ายรูป เปิดแผนที่ เปิดแอปพลิเคชั่นที่เปิดทิ้งไว้นั่นแหละเป็นเหตุให้แบตเตอรี่หมดไว

วันนี้ เราจึงอยากหยิบยกเอา 12 เทคนิคดีๆที่จะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ iOS ของทุกคน ให้อยู่ได้นานขึ้น ตลอดทั้งวัน

• อย่าชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็ม 100%   
• อย่าชาร์จแบตฯ ข้ามคืน
• ชาร์จไฟแค่ 80 เปอร์เซ็นต์ก็เพียงพอแล้ว 
• ปิดการแชร์ Location Services ในแอปที่ไม่จำเป็น 
• ปิด Background App Refresh
• ปรับลดความสว่างของหน้าจอลงบ้าง 
• ปิดฟีเจอร์ ยกขึ้นเพื่อปลุก (Rise to Wake)
• เซตให้เป็น  auto-lock ใน 1 นาที 
• ปิดการใช้งาน Siri
• ปิดการใช้งาน Bluetooth 
• ลดการใช้งาน Reduce Motion เพื่อลดการเคลื่อนไหว
• จำกัดอัตราการรีเฟรชของจอแสดงผล (จํากัดสูงสุด 60 Hz) สำหรับ iPhone และ iPad ที่มีจอแสดงผล ProMotion2

นี่เป็นเพียง ส่วนหนึ่งในการตั้งค่าการใช้งาน ซึ่งจะช่วยประหยัดแบตเตอรี่ iPhone และแท็บแล็ตของ Apple ได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับผู้ที่ตั้งค่าแล้วยังคงพบว่า แบตเตอรี่ของมือถือยังคงลดลงอย่างรวดเร็ว อาจจะต้องตรวจสอบสภาพของแบตเตอรี่ว่าเสื่อมหรือไม่ อีกขั้นตอนหนึ่ง

ที่มา bgr apple

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related