SHORT CUT
ซีอีโอของ Xiaomi กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า เป้าหมายของเขาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของบริษัทคือ มันจะเป็น "รถยนต์ที่ดูดีที่สุด ขับง่ายที่สุด และฉลาดที่สุด" ที่มีราคาต่ำกว่า 500,000 หยวน (2.5 ล้านบาท) ในขณะที่เตรียมรับคำสั่งซื้อในจีนสัปดาห์นี้
Lei Jun ซีอีโอของ Xiaomi ระบุในบัญชี Weibo อย่างเป็นทางการของเขาว่า ในเย็นวันพฤหัสบดี บริษัทจะประกาศช่วงราคาอย่างเป็นทางการ และเริ่มรับคำสั่งซื้อรถยนต์รุ่น SU7 (รุ่น SU ย่อมาจาก Speed Ultra) นับเป็นครั้งแรกที่บริษัทได้ยืนยันระดับบนสุดของช่วงราคา
ความคาดหวังสำหรับรถยนต์คันนี้ก่อตัวขึ้นนับตั้งแต่ Xiaomi เปิดตัวรถในเดือนธันวาคม และประกาศว่ามีเป้าหมายที่จะกลายเป็นหนึ่งในห้าผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก Lei อ้างว่ามีเทคโนโลยีที่สามารถให้อัตราเร่งได้ดีกว่า Tesla และรถยนต์ไฟฟ้าของปอร์เช่
โชว์รูมของ Xiaomi ในประเทศจีนก็เริ่มจัดแสดงรถยนต์คันนี้ในวันจันทร์เช่นกัน โดยมีลูกค้าเป้าหมายและบล็อกเกอร์เกี่ยวกับรถยนต์เข้าแถวเพื่อชมรุ่น " ocean blue " อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ บริษัทยังได้อัปโหลดแอป "Xiaomi Car" ไปยัง app stores ในจีนแล้วด้วย
Xiaomi SU7 จะมีให้เลือก 2 รุ่น รุ่นแรกมีระยะการขับขี่สูงสุด 668 กม. (415 ไมล์) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และรุ่นที่สองมีระยะทางสูงสุด 800 กม. เมื่อเปรียบเทียบกับ Model S ของ Tesla ที่ขับได้ระยะทางไกล 650 กม.
Xiaomi ซึ่งเป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับ 5 ของจีนพยายามที่จะกระจายการลงทุนไปสู่ EV ท่ามกลางความต้องการสมาร์ทโฟนที่ซบเซา ซึ่งเป็นแผนที่วางไว้ครั้งแรกในปี 2021 บริษัทเทคโนโลยีจีนอื่นๆ ที่ร่วมมือในการพัฒนา EV ได้แก่ บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่อย่าง Huawei HWT.UL และบริษัทเสิร์ชเอ็นจิ้น ไป่ตู้
Xiaomi ประกาศว่าจะลงทุน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในอุตสาหกรรมรถยนต์ในระยะเวลาหนึ่งทศวรรษ และเป็นหนึ่งในผู้เล่นไม่กี่รายในตลาด EV ของจีนที่ได้รับการอนุมัติจากทางการ ซึ่งไม่ต้องการจะเพิ่มอุปทานส่วนเกิน โดยรถยนต์ของ Xiaomi ผลิตโดยหน่วยงานของรัฐ BAIC Group ในโรงงานในปักกิ่งด้วยกำลังการผลิต 200,000 คันต่อปี
ความน่าสนใจของรถไฟฟ้ารุ่นนี้ เกิดจากการที่ Xiaomi เป็นผู้นำในการพัฒนาระบบอัจฉริยะในบ้าน โดย HyperOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ที่พัฒนาขึ้นเองสามารถทำงานครอบคลุมทั้งสมาร์ทโฟน ระบบบ้านอัจฉริยะ รถยนต์ และเทคโนโลยีไฮเทคประเภทอื่นๆ ซึ่งจะเป็นซอฟแวร์ที่นำมาใช้กับรถรุ่นนี้ ถือการผสมผสานเทคโนโลยีของรถยนต์และสมาร์ทโฟนเข้าด้วยกัน จนสามารถกล่าวได้ว่า เป็นสมาร์ทโฟนติดล้อ
ที่มา