Xiaomi SU7 รถยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรกของแบรนด์ ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้จะมีเทคโนโลยีอะไรที่น่าสนใจบ้าง โดยเราได้นำราคาและสเปครวบรวมมาให้ดูกัน สำหรับใครที่เป็นสาวกเสียวหมี่ คงจะอยากได้รถคันนี้ติดบ้านไว้สักคัน
Xiaomi SU7 ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ BEV คันแรกของแบรนด์เสียวหมี่ ซึ่งเราได้เคยเห็นกระแสเกี่ยวกับ Xiaomi MS11 ไปก่อนหน้านี้ โดยเสียวหมี่ได้ยื่นขอใบอนุญาตขายรถยนต์ไฟฟ้า Xiaomi SU7 ที่ผลิตโดย Beijing Automotive Industry Holding Co. Ltd หรือ BAIC มีดีกรีเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 6 ของจีน
ดีไซน์อันโดดเด่นของรถยนต์ไฟฟ้า Xiaomi SU7 รุ่นนี้มีหลากหลายจุด ไม่ว่าจะเป็น ปีกหลังแบบแอคทีฟ เมื่อทำความเร็วตัวสปอยเลอร์หลังจะกางออกโดยอัตโนมัติ , ฟังก์ชัน ETC ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ชำระค่าผ่านทางอัตโนมัติบนถนนที่เก็บค่าผ่านทางโดยไม่ต้องหยุดรถ , ระบบในรถยนต์ไฟฟ้าของ Xiaomi SU7 จะขับเคลื่อนโดย HyperOS ของเสียวหมี่ ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นภายในบริษัทซึ่งสามารถจ่ายพลังงานให้กับทั้งสมาร์ทโฟนและรถยนต์ได้
Xiaomi SU7 มาพร้อมตัวถังขนาด ยาว 4,997 x กว้าง 1,963 x สูง 1,455 มม. และระยะฐานล้อ 3,000 มม. ซึ่งเทียบเคียงกับรถยนต์ไฟฟ้าตัวท็อปอย่าง Porsche Taycan ที่มีขนาดความยาว ยาว 4,963 x กว้าง 1,966 x สูง 1,395 มม. ระยะฐานล้อ 2,900 มม. หากตัวรถมาในไซส์นี้จริงก็เรียกได้ว่าน่าสนใจมากเลยทีเดียว
Xiaomi SU7 มาพร้อมกับกระจกหน้ารถที่มีให้เลือกทั้งเทคโนโลยี LiDAR และไม่มี ซึ่งขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยนั้นๆ โดยเซ็นเซอร์จะติดอยู่ที่ด้านหลังกระจกรถ ซึ่งคาดว่ารถรุ่นนี้จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้าหรือ Face ID ด้วย
Xiaomi SU7 รุ่น RWD พร้อมมอเตอร์ 220 kW (300 แรงม้า) และ Xiaomi SU7 รุ่น AWD ที่มีกำลังสูงสุด 495 kW (673 แรงม้า) เลือกใช้แบตเตอรี่ LFP มาจาก BYD สำหรับรุ่นเริ่มต้น และ Ternary NMC จาก CATL สำหรับรุ่นท็อป ซึ่งถือเป็นทางเลือกสำหรับใครที่ต้องการเลือกยี่ห้อแบตเตอรี่ได้ตามความชื่นชอบ ซึ่งทั้งสองรุ่นย่อย สามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 210 กม./ชม.
Xiaomi SU7 มีข่าวสารออกมาว่าราคาอาจจะอยู่ที่ราวๆ 400,000 หยวน หรือราวๆ 1.95 ล้านบาท ซึ่งอาจไม่ใช่รถที่เข้าถึงได้ง่าย แต่อย่างไรก็ต้องรอการเปิดตัวราคาและสเปคอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม Xiaomi SU7 สเปคอื่นๆ ต้องรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. , ออฟชั่นและเทคโนโลยีอื่นๆที่มีมาให้จะเจ๋งแค่ไหน โดยตัวรถจะเริ่มผลิตในเดือนธันวาคมปีนี้ และส่งมอบในเดือนกุมพาพันธ์ ปี 2024 นี้ และหากมีข่าวสารอัปเดตอีกครั้ง ทางเราจะรวบรวมมาสรุปให้ฟังอีกครั้ง
ที่มา : carnewschina
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :