BYD Denza D9 หรือ Hyundai Staria หากจะซื้อรถตู้สักคัน เลือกรุ่นไหนดีในงบไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งทางสปริงนิวส์จะนำข้อมูล สเปค ราคา มาเปรียบเทียบให้เห็นกันว่าคันไหนน่าใช้กว่ากัน เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
BYD Denza D9 เป็นรถตู้ไฟฟ้า 100% หรือรถ EV ที่เป็นการร่วมมือระหว่างบีวายดีและเมอร์เซเดส-เบนซ์ เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มที่มีชื่อว่า 'Denza' ซึ่งไลน์การผลิตนี้จะออกแบบรถยนต์หรูที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% โดยเฉพาะ
ถ้าพูดในเรื่องของหน้าตาความหรูหราถือว่าเทียบชั้น Toyota Alphard ได้เลยทีเดียวเพราะได้แรงบันดาลใจมาเกือบทั้งหมด และในส่วนของระบบเชื้อเพลิงยังมีให้เลือกสองระบบคือ Plug-in Hybird และ EV อีกด้วย
ในส่วนของที่นั่งและภายในห้องโดยสาร BYD Denza D9 มีทั้งหมด 7 ที่นั่ง พร้อมหน้าจอที่รวบรวมความเพลิดเพลินไว้ในรถแบบเต็มรูปแบบ
แต่ที่น่าสนใจคือภายในมีกระจกแบบพิเศษ 2 ชั้น ให้ความเงียบและความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี พร้อมระบบ NVH ควบคุมเสียงให้ไม่เกิน 65 เดซิเบลขณะขับขี่ในความเร็ว 120 กม./ชม.
BYD Denza D9 เรียกได้ว่าจัดเต็มเทคโนโลยีมาให้ทั้ง เบาะนวด, เบาะอุ่น และยังมีที่ชาร์จไร้สายบนรถมากถึง 3 จุด
ย้อนกลับมาพูดถึงเรื่องเครื่องยนต์เราอยากพูดถึงรุ่น EV เป็นพิเศษเนื่องจาก BYD Denza D9 ในรุ่น EV600+ Premium ซึ่งวิ่งได้ระยะทางไกลถึง '600 กิโลเมตร' ต่อการชาร์จ รองรับการชาร์จเร็วได้สูงสุดถึง 166 kWh
ความน่าสนใจของ BYD Denza D9 เราอยากพูดถึงระบบขับขี่อัจฉริยะคือ 'Denza Pilot' และระบบความปลอดภัยที่มาพร้อมถุงลมนิรภัยถึง 9 จุดรอบคัน
BYD Denza D9 คาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.71 ล้านบาท ถึง 3.38 ล้านบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ในส่วนฝั่ง Hyundai Staria ซึ่งเป็นรถตู้สัญชาติเกาหลีรุ่นใหม่ของฮุนไดโฉมล่าสุด ซึ่งได้ปรับโฉมใหม่มาสู้กับตลาดรถตู้รุ่นใหม่ๆ
หากพูดกันถึงเรื่องสเปกเครื่องยนต์ของ Hyundai Staria โฉมใหม่นี้ได้ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 177 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 431 นิวตันเมตร
ในส่วนของเทคโนโลยี Hyundai Staria มาพร้อม Hyundai SmartSense ที่ช่วยให้รถปลอดภัยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเตือนรอบคัน, ระบบป้องกันการเปิดประตูสไลด์เมื่อมีรถวิ่งมาจากด้านข้าง (SEA) , ถุงลมนิรภัย 6 จุด
Hyundai Staria สนวนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,799,000 บาท
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกันในส่วนของอัตราสิ้นเปลือง Hyundai Staria มีอัตราการกินน้ำมันอยู่ที่ 13.63 ลิตรต่อกิโลเมตร ส่วน BYD Denza D9 คำนวณในอัตราชาร์จไฟที่ 3.5 บาท จะได้อัตราการใช้ไฟอยู่ที่ประมาณ 0.049 บาท ต่อกิโลเมตร ซึ่งประหยัดกว่าหลายเท่า เนื่องจากเป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100%
อย่างไรก็ตามปัจจุบันสถานีชาร์จเริ่มกระจายทั่วกรุงเทพมหานครและมีแผนขยายตัวในต่างจังหวัดแล้ว ทำให้การใช้รถตู้ EV จึงไม่เป็นปัญหาเพราะแบตเตอรี่ของรุ่น BYD Denza D9 จุได้ราว 500-600 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และยังรองรับการชาร์จเร็วอีกด้วย
และนั่นทำให้เห็นได้ชัดว่าโดยรวมในราคาไล่เลี่ยกันในรุ่นเริ่มต้นระหว่างสองรุ่นนี้ BYD Denza D9 มีความน่าสนใจที่จะนำมาใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่า Hyundai Staria ที่ยังคงใช้น้ำมันดีเซลอยู่
ที่มา : Hyundai , carnewschina